เอียน รัช นักเตะระดับตำนานของ สโมสรลิเวอร์พูล เป็นกองหน้าชั้นนำของยุโรป ในยุค 80 และต้นยุค 90

เอียน รัช วันนี้จะพามารู้จักกับ อดีตกองหน้าทีมชาติเวลส์ และ ลิเวอร์พูล เป็นนักเตะที่ยิงประตูได้เฉียบคม

เอียน รัช หรือ เอียน เจมส์ รัช, เอ็มบีอี. อดีตกองหน้าทีมชาติเวลส์ และลิเวอร์พูล ได้รับยกย่องให้เป็นกองหน้าชั้นนำของยุโรป ในยุค 80 และต้นยุค 90 ดาวเตะชาวเวลส์ผู้นี้ ถือเป็นนักเตะที่มองเกมอย่างยอดเยี่ยม และยิงประตูได้เฉียบคมอย่างมาก

โดยเอียน รัช กับคู่หูของเขา เคนนี ดัลกลิช ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่า เป็นคู่กองหน้าที่ดีที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษ ในระดับสโมสร เคยค้าแข้งกับสโมสรชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล, ยูเวนตุส, ลีดส์ ยูไนเต็ด และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก่อนจะเลิกเล่นฟุตบอลที่ออสเตรเลีย ในปี 2000 เขาย้ายไปร่วมทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในแบบยืมตัวในช่วงสั้นๆ

ก่อนจะย้ายไปเล่นให้ เร็กซ์แฮม ด้วยอายุ 37 ปี รัชลงสนามในลีก 18 นัดแรก แต่ยิงประตูไม่ได้และย้ายไปเล่น ตำแหน่งกองกลางจบจบฤดูกาล และเขาเลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการ ที่ออสเตรเลียกับที มซิดนี่ย์ โอลิมปิก ในปี 2000 ในวัย 38 ปี ดูซีรี่ย์

เอียน รัช

มาดูถึงประวัติของ เอียน รัช ว่าเส้นทางการเป็นนักเตะอาชีพของเขา มีความเป็นมาอย่างไร?

รัช เกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 1961 ที่เซนต์ อะซาฟ ในเวลส์ หลังออกจากโรงเรียนในปี 1978 รัชก็เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ด้วยการเข้าร่วมทีมเชสเตอร์ ซิตี้ในระดับดิวิชั่น 3 (เดิม) หลังฉายแววเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เขาได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ ในปลายฤดูกาล 1978-1979

โดยเขาประเดิมลงสนามนัดแรก ในตำแหน่งกองกลาง เมื่อเดือนเมษายน ปี 1979 ในเกมส์พบเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ซึ่งจบลงที่ผลเสมอ 2-2 แต่หลังจากนั้นในฤดูกาล 1979-1980 เขาก็ได้เล่นตำแหน่งกองหน้า โดยยิงประตูแรกในอาชีพนักฟุตบอล ได้ในเกมส์ที่เชสเตอร์ ซิตี้เสมอกับจิลลิ่งแฮม 2-2 เมื่อวันที่ 15 กันยายน 1979

และเดือนต่อมาเขาก็ยึด ตำแหน่งตัวจริงได้เมื่อสโมสร ตัดสินใจขาย เอียน เอ็ดเวิร์ดส์ กองหน้าของทีมออกไปให้เร็กซ์แฮม ชื่อของเอียน รัชเริ่มถูกพูดถึงเมื่อเป็นผู้ยิงประตูให้เชสเตอร์ ซิตี้ บุกเอาชนะนิวคาสเซิ่ล ไปอย่างพลิกล็อก 2–0 ในเอฟเอคัพ รอบ 3 ในเดือนมกราคม ปี 1980

ก่อนจะมาแพ้ อิปสวิช ทาวน์ ในอีก 2 รอบต่อมามา แมตช์สุดท้ายของเขาและเชสเตอร์ ซิตี้ คือเกมส์ที่เปิดบ้านพบกับ เซาธ์เอนด์ ยูไนเต็ด ที่สนามซีแลนด์ โร้ดสนามเหย้าของทีมในเวลานั้น เมื่อวันที่ 26 เมษายน 1980 ซึ่งถึงแม้เอียน รัชจะยิงประตูไม่ได้แต่ทีมก็ชนะ 2-1

และจบฤดูกาลด้วยอันดับ 9 ในดิวิชั่น 3 แม้จะได้รับความสนใจจาก แมนเชสเตอร์ซิตี แต่กลับเป็น ลิเวอร์พูล ที่สามารถคว้าตัวดาวรุ่งแห่งเวลส์ผู้นี้ มาได้เมื่อ บ็อบ เพลสลีย์ กุนซือของลิเวอร์พูลซื้อตัวเขา มาจากเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยราคา ถึง 300,000 ปอนด์

และเป็นสถิติการขายผู้เล่น ที่ได้ค่าตัวสูงสุดของเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยืนยาวมาจนถึง 28 ปี ตลอดช่วงเวลาของเขาที่เชสเตอร์ ซิตี้ เขาอยู่ภายใต้การคุมทีมของ อลัน โอ๊คส์ และผู้ที่มีส่วนอย่างยิ่งในการพัฒนา ฟอร์มการเล่นของเขาก็คือ คลิฟฟ์ เซียร์ โค้ชทีมเยาวชนของเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งภายหลังอีก 20 ปีต่อมาทั้งคู่ได้ร่วมงานกันอีกครั้ง ในทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของเร็กซ์แฮม แทงบอลโลก2022

เอียน รัช

การลงสนามครั้งแรกของ เอียน รัช และผลงานในการเป็นนักเตะของ ลิเวอร์พูล

เอียน รัช ได้เล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ ครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม ปี 1980 ก่อนที่เขาจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้เล่นของลิเวอร์พูล โดยการลงสนามนัดแรกของเขา ให้ลิเวอร์พูลต้องรอถึงวันที่ 13 ธันวาคม ปีเดียวกัน ในเกมส์ดิวิชั่น 1 พบกับทีมอิปสวิช ทาวน์

รัชใช้เวลาบางช่วงในฤดูกาลแรก ของเขากับลิเวอร์พูลในทีมสำรอง เพื่อศึกษาแนวทางของทีม และต้องฝึกฝนไม่ต่างจากดาวรุ่งคนอื่น ก่อนจะก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ การฝึกในทีมสำรองของสโมสร เป็นเรื่องยากและไม่ใช่สิ่งที่เขาชื่นชอบนัก

และดาวรุ่งในทีมมีความต้องการ ย้ายทีมเพื่อให้ได้ลงเล่นในทีมชุดแรก รวมถึงตัวของเขาเองด้วย แต่ภายหลังเมื่อได้พูดคุย และได้รับการชี้แนะจากสุดยอดกุนซืออย่าง บ็อบ เพลสลี่ ที่แนะให้เขามีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น เวลาได้บอลทำให้เขาตัดสินใจอยู่ เพื่อสู้แย่งตำแหน่งในทีมต่อไป

และประตูแรกของเขาก็มาถึง ในวันที่ 30 กันยายน 1981 ในยูโรเปี้ยน คัพ รอบแรก นัดที่ 2 ที่สนามแอนด์ฟิลด์ ในเกมส์พบสโมสร โอลุน ซึ่งในนัดแรกลิเวอร์พูลบุกไปชนะมา 1-0 และในนัดที่ 2 ลิเวอร์พูล ก็ไล่ถล่มทีมจากฟินแลนด์ไป 7–0 รัชยิงประตูได้ในนาทีที่ 67

และในฤดูกาลนั้น เขาปิดฉากอย่างสวยหรู ด้วยตำแหน่งดาวซัลโวของสโมสร เมื่อยิงไป 30 ลูก จากการลงสนาม 49 เมื่อรวมทุกรายการ และเป็นการยิงในลีกถึง 17 ประตู และพาสโมสรคว้าแชมป์ลีกในที่สุด ทีมหงส์แดงภายใต้การคุมทีมของ เคนนี ดัลกลิช ที่รับตำแหน่งผู้เล่น-ผู้จัดการทีม

ก็กลับมาเล่นด้วยฟอร์มที่ผิด กับครึ่งแรกและเอียน รัชก็สามารถยิงประตูตีเสมอ ให้ทีมได้สำเร็จในนาทีที่ 57 จากการผ่านบอลของ แยน โมลบี้ และเข้าไปยิงผ่านบ็อบบี้ มิมส์ ผู้รักษาประตูเอฟเวอร์ตัน อย่างสบายๆและอีก 6 นาทีต่อมา โมลบี้ ผู้เป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกของ ลิเวอร์พูล

ได้บอลในเขตโทษของเอฟเวอร์ตัน ก่อนจะผ่านบอลอย่างสุดยอดให้ เคร็ก จอห์นสตัน ยิงประตูให้ลิเวอร์พูลกลับมาแซงเป็น 2-1 เกมสู้กันอย่างสูสีจนกระทั่งนาทีที่ 84 รัชก็มายิงประตูชัยได้สำเร็จ พร้อมกับพาลิเวอร์พูลคว้าดับเบิ้ลแชมป์ หนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์หลังจบเกมส์

ผลงานในปี 1987–1988 กับสโมสรยูเวนตุส 

หลังได้รับความสนใจจาก ทีมยักษ์ใหญ่หลายทีมในยุโรป ทำให้เขาเริ่มคิดถึงการย้ายออกจาก ถิ่นแอนด์ฟิลด์ ในช่วงต้นฤดูกาล 1986-1987 และในวันที่ 1 กรกฎาคม 1987 เขาก็ถูกขายให้ สโมสรยูเวนตุส มหาอำนาจลูกหนังในแดนอิตาลี ด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์

ซึ่งเป็นการย้ายทีมไปเล่นให้กับ คู่กรณีในเกมส์แห่งความหายนะ ที่สนามเฮย์เซลส์ ทั้ง 2 สโมสรฟื้นฟูความสัมพันธ์กันอีกครั้ง และมีการเตะแมตช์กระชับมิตรของทั้ง 2 สโมสร และดูเหมือนว่ามันจะเป็น ความท้าทายใหม่ของรัช ในการที่จะต้องถูกกองหลังประกบตาย ในลีกอิตาลี แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ประสบความสำเร็จที่นี่ เมื่อยิงได้เพียง 12 ประตูจาก 29 นัด

และพบกับช่วงเวลายากลำบากใน ตูริน หลังเล่นที่อิตาลีอยู่ 1 ฤดูกาลเขาก็ย้ายกลับถิ่น แอนด์ฟิลด์ อีกครั้งด้วยค่าตัวถึง 2 ล้าน 7 แสนปอนด์ในวันที่ 18 สิงหาคม 1988 และเป็นสถิติค่าตัวแพงที่สุด ในเกาะอังกฤษ ก่อนที่สถิติดังกล่าวจะถูกทำลาย ในอีก 3 ปีต่อมา เนมาญา วีดิช

ตาราง-12-05-64-v