5 นักเตะระดับโลก สุดยอดนักเตะระดับตำนาน นักเตะที่ดีที่สุดในโลก ที่คอบอลต้องรู้จัก

5 นักเตะระดับโลก วันนี้จะพามาทำความรู้จัก กับ 5 นักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก

5 นักเตะระดับโลก นักเตะส่วนใหญ่ที่ได้มีโอกาส ได้ลงสนามจริงในลีกที่สำคัญๆ ระดับโลกก็มีโอกาสที่จะได้รับ การสนับสนุนและทาบทามจากสโมสรต่างๆ หากมีแววในการเล่น และสามารถทำประตูได้มาก ครั้งนี้จึงได้รวมห้าอันดับนักเตะ ที่มีผู้ชมและผู้ให้ความสนใจอยู่มาก การันตีจากความสามารถในระดับโลก

พวกเขายังมีคุณภาพ การยิงที่ยอดเยี่ยมและความแม่นยำ ในการส่งบอลที่เหลือเชื่อพวกเขาไม่เพียงแต่ เป็นส่วนสำคัญของการฝึกซ้อม แนวรุกเท่านั้นแต่ยังใช้ความพยายาม อย่างเต็มที่กับเกมอีกด้วย สำหรับในวันนี้จะมาแนะนำกับ สุดยอดนักเตะระดับตำนาน นักเตะที่ดีที่สุดในโลก 

5 นักเตะระดับโลก

อันดับ 1 เปเล่ (Pele) หรือไข่มุกดำ 5 นักเตะระดับโลก ทำไมถึงได้เป็นอันดับ 1 มาดูกัน 

ไม่มีใครไม่รู้จัก เปเล่ ยอดนักฟุตบอลชาวบราซิลเบอร์ 10  เปเล่ มีชื่อจริงว่า เอดซง อารังชีส ดู นาซีเมงตู (Edson Arantes Do Nascimento) มีฉายาที่ยิ่งใหญ่อย่าง O Rei ที่แปลว่า ราชาแห่งฟุตบอลและไข่มุกดำ แห่งทีมชาติบราซิล

เปเล่ เริ่มต้นเข้าสู่วงการฟุตบอลจริงจังเมื่ออายุ 11 ปี โดยอยู่ทีมฟุตบอลสมัครเล่น เมื่ออายุ 15 ปี จึงได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของซานโตส เอฟซียอดสโมสรในบราซิล และเมื่ออายุ 17 ปี เปเล่ ติดทีมชาติและเข้าแข่งขันฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรกในปี 1958

โดยหลังจากนั้นเขาก็พาบราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกอีก 3 ครั้ง ยิงประตูทั้งหมดกว่า 1,282 ลูกจากการลงเล่น 1,363 นัด พร้อมทั้งทำแฮตทริกมากที่สุดในโลก ถึง 92 ครั้ง และเป็นผู้เล่นที่มีลีลาพลิ้วไหว จนกลายเป็นภาพที่ติดตาตรึงใจ แฟนบอลไปตลอดกาล

ถึงแม้ตอนนี้จะทำได้เพียงกลับไปดูภาพในอดีต แต่ปัจจุบันเขาก็ยังทำงานการกุศล เกี่ยวกับฟุตบอลอีกมากมาย ไข่มุกดำคนนี้จึงถือเป็นหนึ่ง ในสัญลักษณ์ของวงการฟุตบอล ในรอบร้อยปีเลยทีเดียว หนังออนไลน์ล่าสุด

อันดับ 2 ดิเอโก้ มาราโดน่า (Diego Maradona)กับ5 นักเตะระดับโลก เสือเตี้ยผู้ยิ่งใหญ่ 

เสือเตี้ยผู้ยิ่งใหญ่ชาวอาร์เจนตินา ผู้มีลีลาการเล่นฟุตบอลด้วยเท้าซ้ายอันยอดเยี่ยม และลีลายียวนกวนประสาทที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการนำทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลกมาแล้วในปี 1986

มาราโดน่า เริ่มต้นวงการฟุตบอลอาชีพเมื่ออายุ 15 และเข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งแรกเมื่ออายุ 17 แต่ยังไม่ได้แชมป์ในทันทีในปี 1982 หลังจากนั้น มาราโดน่า ก็ย้ายจากสโมสร โบคา จูเนียร์ สู่ บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัวเป็นสถิติสูงสุดในตอนนั้นจำนวน 5 ล้านปอนด์

อีกทั้งยังสามารถพาทีมคว้า แชมป์ต่างๆมากมาย ก่อนจะย้ายไปสโมสรนาโปลี ในลีคอิตาลีด้วยค่าตัวที่สร้างสถิติใหม่ อีกครั้งที่ 6.7 ล้านปอนด์ หลังจากนั้น มาราโดน่า ก็เริ่มมีปัญหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และความเครียด จนต้องระเห็จออกจากสโมสรไป

ก่อนจะย้ายกลับมาอยู่ที่ โบคา จูเนียร์ สำหรับผลงานกับทีมชาตินั้น ยิ่งใหญ่และอื้อฉาวพอกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เป็นที่พูดถึงกันมากที่สุดคือ ตอนฟุตบอลโลกปี 1986 ที่ มาราโดน่า เป็นกัปตันทีม เขาพาลูกทีมไปถึงรอบสุดท้าย และทำประตูแรกด้วยมือในแมทช์ ที่ปะทะกับทีมชาติ อังกฤษ

จนเป็นที่มาของฉายา “Hand of God” และยังเป็นผู้ย้ำชัยลูกที่ 2 ด้วยตัวเอง จากการครองบอลกว่าครึ่งสนาม ก่อนจะหลอกผู้รักษาประตูจนหัวทิ่มแล้ว ซัดตุงตาข่าย โดยผลงานชิ้นนี้ถูกเลือกให้เป็น การปิดสกอร์ที่ดีที่สุดในโลกเมื่อปี 2002

มาราโดน่า ลาวงการด้วยปัญหายาเสพติด ในปลายยุค 90 การใช้ชีวิตแบบร็อคสตาร์ มากกว่านักกีฬาไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีเท่าไรนัก แต่ด้วยเป็นนักเตะที่มีฝีเท้าเยี่ยมและรางวัลการันตีมากมาย ฟีฟ่าจึงเลือกให้เป็นผู้เล่นแห่งศตวรรษที่ 20 เคียงคู่กับราชาลูกหนังอย่าง เปเล่ ปัจจุบัน มาราโดน่า ยังคงทำงานในวงการฟุตบอลในฐานะผู้จัดการทีม ซึ่งล่าสุดคือสโมสร อัล วาสล์ ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต แทงบอล

อันดับ 3 ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ (Franz Beckenbauer) 

ยอดนักฟุตบอลชาวเยอรมัน ผู้ได้รับฉายาว่า “จักรพรรดิ” ด้วยลีลาการเล่นฟุตบอลที่เป็นพื้นฐาน ให้นักฟุตบอลรุ่นใหม่ เบ็คเคนบาวเออร์ เป็นนักฟุตบอลที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง แต่เป็นที่จดจำในตำแหน่ง สวีปเปอร์หรือตัวตัดเกม

และสามารถนำพาทีมชาติเยอรมันตะวันตก เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก ทั้งในฐานะกัปตันทีม เมื่อปี 1974 และในฐานะผู้จัดการทีมเมื่อปี 1990 และได้ถ้วยสโมสรยุโรปถึง 3 ครั้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งยังไม่มีใครทำได้จนถึงปัจจุบัน

ในปี 1999 ที่มีการเลือกนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษ เบ็คเคนบาวเออร์ ได้อันดับ 3 ไปครองเป็นรองแค่ เปเล่ และ โยฮัน ครัฟฟ ทั้งนี้ ในปัจจุบันเขาทำงานเป็นกูรู ในวงการฟุตบอลประจำรายการโทรทัศน์ เยอรมัน บรรณาธิการเขียนคอลัมน์ฟุตบอล และยังเป็นผู้มีส่วนผลักดัน ให้ประเทศเยอรมันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอล โลกเมื่อปี 2006 ด้วย 5 นักเตะค่าตัวแพง

5 นักเตะระดับโลกอันดับ 4 เลโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi)

เมสซี่ ถือเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ที่ปัจจุบันยังคงโลดแล่นอยู่ในสนามฟุตบอล โดยความสำเร็จของ เมสซี่ นั้นเทียบได้กับ เปเล่และมาราโดน่า ในยุคนั้นด้วยถ้วยรางวัลมากมาย ในระดับสโมสรและระดับทวีป เหลือก็แต่เพียงฟุตบอลโลกเท่านััน

หนทางชีวิตนักฟุตบอลของ เมสซี นั้นถือเป็นระดับฟ้าประทานเลยทีเดียว เขาเติบโตและฝึกหัดฟุตบอลใน อาร์เจนตินา แต่ด้วยความผิดปกติทางร่างกาย ทำให้เขาสูงเพียง 140 ซม. ขณะอายุ 13 ปี ซึ่งแพทย์แนะนำให้ฉีดฮอร์โมน เพื่อเร่งการเจริญเติบโต

ทว่ากลับต้องแลกกับค่าใช้จ่ายสูงถึงเดือนละ 30,000 บาท ทำให้พ่อของเขาถึงกับต้องถอดใจ แต่ท้ายที่สุดโชคก็เข้าข้าง เมื่อสโมสรบาร์เซโลนา เห็นแววของเด็กคนนี้ จึงขอให้รับการฝึกฝนกับทางสโมสร และพร้อมจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้

ซึ่งผลการรักษาทำให้เขาสูงขึ้นเป็น 170 ซม. สโมสรบาร์เซโลนาได้สร้างสุดยอดนักฟุตบอล ของโลกขึ้นมาอีกคนหนึ่ง โดยเมสซี่เป็นได้ทั้งจอมพิฆาตประตู เพลย์เมคเกอร์เปิดเกมรุก รวมทั้งเป็นจอมตัดเกมในยามจำเป็น 

แถมสามารถทำเกมอย่างรวดเร็วได้ด้วยตัวเอง แต่จุดบอดของเขาคือการเล่นลูกโด่ง ซึ่งเป็นข้อจำกัดในเรื่องของส่วนสูง ของเขานั่นเองแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเมสซี่ ยิงให้บาเซโลนาแล้วกว่า 200 ประตู คว้าแชมป์สโมสรยุโรป 3 ครั้ง แชมป์ลาลีกา 5 ครั้ง

ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมบัลลงดอร์ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ตรงข้ามกับผลงานทีมชาติที่ทำได้เพียง 19 ประตู จากการลงเล่น 66 นัด และยังไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันรายการใหญ่ๆ ในนามทีมชาติได้เลย ซึ่งคงต้องติดตามผลงานของเขากันต่อไป 

อันดับ 5 โยฮัน ครัฟฟ์ (Johan Cruijff) 

โยฮัน ครัฟฟ์ ยอดนักเตะแห่งทีมอัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่มีลีลาการเล่น สง่างามที่สุดจนได้ฉายาว่า “นักเตะเทวดา” ครัฟฟ์ เกิดในเมืองอัมสเตอร์ดัม โดยบ้านเกิดของเขา อยู่ห่างจากสโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่าง อาแจ็กซ์ เพียงไม่กี่ร้อยเมตร

ซึ่งพ่อแม่ของเขาต่างก็ทำงาน ในสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ด้วย ทั้งนี้ ครัฟฟ์ เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี กับสโมสรอาแจ็กซ์ ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นสโมสรกึ่งอาชีพอยู่ จนกระทั่ง 2 ปีต่อมา อาแจ็กซ์กลายเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จ ที่สุดของโลก

และด้วยลีลาการเล่นที่รวดเร็ว และสร้างสรรค์ ที่เรียกกันว่า “Total Football” ของเขา ทำให้ ครัฟฟ์ เป็นหัวใจหลักของทีมได้เสมอมา จนหลายๆครั้งที่การเล่นของเขานำมาซึ่งชัยชนะ ให้กับทางอาแจ็กซ์ และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ได้หลายครั้งหลายครา

ผลงานในสนามของ โยฮัน ครัฟฟ์ เองก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายตา แฟนบอลทั่วโลกอย่างเห็นได้ชัด โดยเขานำอาแจ็กซ์คว้าชัยด้วยผลงานการทำประตู 25 ลูก ใน 23 นัด คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยม ตั้งแต่อายุ 18 ปี

หลังจากนั้นก็พาสโมสรคว้าแชมป์ยุโรป และพาทีมชาติคว้าแชมป์ยุโรปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ครัฟฟ์ ไม่เคยพาอัศวินสีส้มสัมผัสกับความสำเร็จ ในการแข่งขันฟุตบอลโลกได้เลย สักครั้งโดยครั้งที่ใกล้เคียงที่สุด ก็ทำได้เพียงแค่เข้าชิงกับทีมชาติเยอรมันตะวันตก

ซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ ไปอย่างน่าเสียดายที่สกอร์ 2-1 หลังจากบอกลาการโลดแล่นในสนาม โยฮัน ครัฟฟ์ ผันตัวเป็นผู้จัดการทีม เคยบริหารทีมชั้นนำอย่าง อาแจ็กซ์ และบาร์เซโลนา ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมดูแล คาตาโลเนีย สโมสรฟุตบอลในสเปน

ตาราง-12-05-64-v