เปาโล มัลดีนี นักฟุตบอลชาวอิตาลี เล่นให้กับสโมสรฟุตบอล เอซีมิลาน ตลอดการค้าแข้ง

เปาโล มัลดีนี วันนี้จะพามารู้จักกับ กองหลังระดับโลก โดยเฉพาะการเล่นในฝั่งซ้าย ให้กับมิลานกว่า 600 นัดมากที่สุด เป็นสถิติของสโมสร

เปาโล มัลดีนี เกิดเมื่อวันที่26 มิถุนายน ค.ศ. 1968 เป็นนักฟุตบอลชาวอิตาลี เล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน ตลอดการค้าแข้ง มัลดีนีได้ชื่อว่าเป็นกองหลังระดับโลก โดยเฉพาะการเล่นในฝั่งซ้าย เปาโล มัลดีนี เป็นลูกชายของ เชซาเร มัลดีนี นักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงอีกคนหนึ่ง ของอิตาลี

เปาโล มัลดีนี เล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเอซีมิลานมาโดยตลอด ในระยะเวลากว่า 23 ปี เล่นให้กับมิลานกว่า 600 นัด เล่นมากที่สุดเป็นสถิติของสโมสร โดยนัดแรกที่เล่นใน เซเรียอา พบกับ อูดิเนเซ่ ผลเสมอกันไป 1-1 คือวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 1985

และนัดที่เล่นเป็นนัดที่ 600 เป็นนัดที่เจอทีม คาตาเนีย ผลเสมอ 1-1 คือวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 มัลดีนีเป็นกองหลัง ที่ดีคนหนึ่งของโลก มีความเยือกเย็นอ่านทางบอลได้ดี มีความแข็งแกร่ง และเข้าบอลได้ดี ต่ำแหน่งที่เค้าถนัดคือ แบ็กซ้าย ดูหนังออนไลน์

เปาโล มัลดีนี

มาดูถึงตระกูลของ เปาโล มัลดีนี ทำไมถึงยืนหยัดรับใช้ เอซีมิลาน เข้าสู่รุ่นที่ 3

เป็นครอบครัวนักเตะในตำนาน ของวงการฟุตบอลอิตาลี เลยก็ว่าได้สำหรับตระกูล มัลดินี่ ซึ่งมีความผูกพันธ์กับ “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ทีมยักษ์หลับแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา มาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต เพราะได้ปักหลักรับใช้ทีมลูกหนัง แห่งถิ่นซาน ซิโร่ มาแล้วถึง 3 รุ่นเลยนั่นเอง

ไล่ตั้งแต่ เซซาเร่ มัลดินี่ ตำนานกองหลังรุ่นคุณปู่ ในยุคบุกเบิกเมื่อช่วงทศวรรษ 50 ซึ่งเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ก่อนจะส่งไม้ต่อให้กับคนลูกที่มีนามว่า เปาโล มัลดินี่ อดีตแบ็คซ้าย ระดับโลกในช่วงทศวรรษ 90 และล่าสุดได้ตกทอดไปสู่รุ่นหลาน นั่นก็คือ ดาเนียล มัลดินี่ กองกลางดาวรุ่งวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น ย้อนหลังกลับไปในช่วงทศวรรษ 50 ซึ่งเป็นยุคที่ เอซี มิลาน เพิ่งเริ่มก่อร่างสร้างตัว

ในเรื่องของความสำเร็จบนเวที ลูกหนังยุโรป โดยตอนนั้นมี เซซาเร่ มัลดินี่ เป็นนายใหญ่ในแนวรับ หลังย้ายมาจาก ตริเอสติน่า ในปี 1954 และมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ “ปีศาจแดงดำ” ยึดบัลลังก์ “เจ้าสโมสรยุโรป” ได้เป็นสมัยแรก ตั้งแต่ตอนที่ยังใช้ชื่อว่า ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1963 อีกด้วย

ทั้งนี้ตำนานกองหลังผู้ล่วงลับ ได้อยู่ปักหลักรับใช้ “ปีศาจแดงดำ” ระหว่างปี 1954-1966 จึงได้จารึกสถิติลงลงเล่นให้กับ สโมสรในช่วงตลอด 12 ปีไปทั้งหมด 347 เกมเลยทีเดียว ก่อนจะอำลาโลกใบนี้ไป แบบไม่วันหวนกลับเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2016 ด้วยวัย 83 ปี หลังจากนั้น เปาโล มัลดินี่ ได้เริ่มสานต่อตำนานของคุณพ่อ ในปี 1978 โดยเริ่มต้นจากการเป็น นักเตะเยาวชนของ เอซี มิลาน ในตำแหน่งกองหลัง

ก่อนจะสร้างชื่อได้จากการ สวมบทเป็นแบ็คซ้าย จึงได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ ในปี 1984 และได้อยู่ปักหลักค้าแข้งในถิ่นซาน ซิโร่ เพียงแค่สโมสรเดียวเท่านั้นจนถึงปี 2009 อีกด้วย นอกจากนี้ยังเคยพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ถึง 5 สมัย ในปี 1989, 1990, 1994, 2003 และ 2007

จึงได้จารึกสถิติลงลงเล่นให้กับ สโมสรในช่วงตลอด 25 ปีไปทั้งหมด 647 เกมเลยทีเดียว ทำให้ “ปีศาจแดง” ยังคง “รีไทร์” ด้วยการเว้นว่างเสื้อหมายเลข 3 ซึ่งเป็นเบอร์ที่เคยสวมใส่ เพื่อเป็นเกียรติให้จนถึงปัจจุบันไปเลย ส่วนตอนนี้ได้ร่วมงานกับทีมเก่า ในฝ่ายบริหารด้วยการสวมบทเป็น ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ในวัย 52 ปีมาตั้งแต่ปี 2019 นั่นเอง ปัจจุบันตระกูล มัลดินี่ ได้เข้ารุ่นที่ 3 ภายใต้ชายคาของ เอซี มิลาน

โดยก่อนหน้านี้ เปาโล ได้ให้ลูกชายทั้ง 2 คน นั่นก็คือ คริสเตียน กับ ดาเนี่ยล เป็นนักเตะฝึกหัดของ “ปีศาจแดงดำ” ตั้งแต่เมื่อครั้งวัยเยาว์เลย ทว่า คริสเตียน ซึ่งเล่นในตำแหน่งกองหลัง ในถิ่นซาน ซิโร่ ไม่สามารถแจ้งเกิดได้สำเร็จ จึงเหลือเพียง ดาเนี่ยล ที่ได้ก้าวเท้าขึ้นมาแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่

ตั้งแต่เมื่อช่วงฤดูกาลก่อน และเพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา นัดล่าสุดที่แพ้ ยูเวนตุส คาบ้าน 1-3 เมื่อคืนวันที่ 6 มกราคม 2021 ด้วย แม้จะเพิ่งมีสถิติลงเล่นให้สโมสร เพียงแค่ 6 เกมแต่ยังมีโอกาสต่อยอด เพื่อสานต่อตำนานของ 2 รุ่น ที่ผ่านมาได้อย่างแน่นอน แทงบอลโลก

เปาโล มัลดีนี

ในปี ค.ศ. 1985 ของเปาโล มัลดีนี กับการเล่นให้กับเอซีมิลานครั้งแรก

เปาโล มัลดีนี เล่นให้กับเอซีมิลานครั้งแรกในปี ค.ศ. 1985 ในนัดแรกพบกับ อูดิเนเซ่ และช่วงที่เล่นให้กับ เอซี มิลาน ประสบความสำเร็จมามากมาย ในการค้าแข้งในระดับสโมสร ตั้งแต่ช่วยให้ทีมได้แชมป์ กัลโช่ เซเรียอา 7 สมัย ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 5 สมัยจากการเข้าชิงทั้งหมด 7 ครั้ง ในรอบ 18 ปี

ในวันที่ 25 กันยายน 2005 มัลดีนีทำลายสถิติผู้เล่น ที่เล่นในเซเรียอามากที่สุดแซงสถิติเก่าของ ดีโน่ ซอฟ ที่ทำไว้ 571 นัด ในนัดที่พบกับเตวิโซ่ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2005 เปาโล มัลดีนี ทำลายสถิติ 2 อย่างในปีเดียวกันคือ ทำสถิติยิงเร็วที่สุดใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในนัดชิงชนะเลิศที่พบกับลิเวอร์พูล

โดยยิงประตูได้ในช่วง 51 วินาทีแรกของการแข่งขัน อย่างที่สองคือเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุด ที่ทำประตูได้ในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2005 มัลดีนี ประกาศว่าจะเลิกเล่นบอลอาชีพ เมื่อหมดฤดูกาล 2006-2007

แต่อย่างไรก็ตามสัญญาของเค้า จะหมดลงในปี 2008 และเบอร์ 3 ก็อาจจะยกเลิกตามไปด้วย เพื่อเป็นเกียรติแก่มัลดีนี แต่ยังไงก็ตามเบอร์ 3 นี้อาจจะได้ใช้อีกครั้งในอนาคต ซึ่งคงจะเป็นลูกชายของเค้า คริสเตียน ที่มีอายุเพิ่งจะ 11 ปี

ซึ่งเล่นให้กับสโมสร เอซี มิลาน ระดับเยาวชน ในวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 มัลดีนีช่วยพา มิลาน คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เป็นสมัยที่ 7 ของสโมสรได้สำเร็จ โดยเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 เอดินสัน คาวานี่

พาทีมชาติอิตาลี ได้อันดับที่ 3 ในฟุตบอลโลก 1990

ในทีมชาติ เปาโล มัลดีนี ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เท่ากับการเล่นในระดับสโมสร มัลดีนี ช่วยพาทีมชาติอิตาลี ได้อันดับที่ 3 ในฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพ ในฟุตบอลโลก 1994 อิตาลีเป็นทีมเต็งทีมหนึ่ง ที่มีโอกาสได้แชมป์ แต่แล้วในรอบชิงชนะเลิศ

อิตาลี ต้องพบกับ บราซิล สู้กันอย่างสูสีจนถึงขั้นต่อเวลา ก็ยังยิงกันไม่ได้จึงต้องยิงจุดโทษ ตัดสินผลปรากฏว่าอิตาลีพ่าย นั้นเป็นช่วงที่ใกล้เคียงที่สุด ของมัลดีนีกับการได้แชมป์บอลโลก หลังจากนั้นในฟุตบอลโลก 1998 อิตาลีก็ต้องตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ด้วยการพ่ายต่อ ฝรั่งเศส ด้วยการยิงลูกจุดโทษเช่นกัน ในปี 2000 ทีมชาติอิตาลีเข้าชิงศึกยูโร 2000 อิตาลีพบกับฝรั่งเศส และก็เป็นความผิดหวังอีกครั้ง เมื่อพ่ายต่อทีมชาติฝรั่งเศส ทั้งที่ขึ้นนำไปก่อนโดยเสีย 2 ลูกในช่วง 5 นาทีสุดท้าย แพ้ไปด้วยสกอร์ 2-1

ฟุตบอลโลก 2002 อิตาลีเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย พบกับเจ้าภาพเกาหลีใต้ ทีมชาติอิตาลีต้องเสียลูกจุดโทษ ปัญหาในช่วงท้ายเกมส์และ ต๊อตติโดนไล่ออกก่อนที่จะเสีย 2 ลูก ในช่วงใกล้หมดเวลา และต่อเวลาพิเศษด้วยการโหม่งของ ฮาน จูง วาน ทำให้ตกรอบในที่สุด

ในช่วงติดทีมชาติไปเล่นบอลโลก รอบสุดท้าย 4 ครั้งที่ผ่านมา มัลดีนีใกล้เคียงแชมป์โลกมากที่สุด คือในปี 1994 แต่ในฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพนั้น มัลดีนี ไม่ได้ติดทีมชาติ ต่ำแหน่งที่มัลดีนีเล่นถูกทดแทนโดย ฟราบิโอ กรอสโซ่

ทีมชาติกลับได้แชมป์โลก ซึ่งเป็นความโชคร้ายในชีวิตของเค้า ที่ไม่สามารถมาถึงจุดสูงสุดในการเล่น ให้กับทีมชาติได้เลย โดยนัดที่เล่นเป็นครั้งสุดท้ายของ มัลดีนีคือนัดที่เล่นใน ฟุตบอลโลก 2002 ซึ่งเป็นนัดที่เจอเกาหลีใต้ 

ตาราง-12-05-64-v