เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ ตั้งอยู่ในเมืองเชฟฟีลด์ เซาท์ยอร์กเชียร์

เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด วันนี้จะพามาทำความรู้จัก อีกหนึ่งสโมสรฟุตบอล ในประเทศอังกฤษ

เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด (อังกฤษ: Sheffield United Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ ตั้งอยู่ในเมืองเชฟฟีลด์ เซาท์ยอร์กเชียร์ ปัจจุบันเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ

พวกเขาเป็นสโมสรแรกที่ใช้ชื่อต่อท้ายว่า “ยูไนเต็ด” และฉายาดาบคู่ (The Blades) ของพวกเขาก็มาจากการที่เมืองของเขา มีอุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก สนามเหย้าของพวกเขาคือ บลามอลล์เลน ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ยังใช้อยู่

สโมสรเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1897 ถึง 1902 โดยได้แชมป์ลีกในปี ค.ศ. 1898 และคว้าแชมป์เอฟเอคัพ ในปี ค.ศ. 1899 และ 1902 และอีกครั้งใน ค.ศ. 1915 และ 1925 พวกเขายังเคยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ อีกสองครั้งใน ค.ศ. 1901 และ 1936

เข้าถึงรอบรองชนะเลิศอีกสี่ครั้งใน ค.ศ. 1961, 1993, 1998 และปี 2003 นอกจากนี้ในถ้วยลีกคัพ ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาก็คือการเข้าถึง รอบรองชนะเลิศใน ค.ศ. 2003 อีกเช่นเดียวกัน ผลงานในช่วงที่ผ่านมา ทีมดาบคู่ สามารถเลื่อนชั้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกได้ใน ค.ศ. 2006

แต่อยู่ได้แค่ปีเดียวก็ตกชั้นไปอีกครั้ง พวกเขาสามารถเข้าถึงรอบเพลย์ออฟ เลื่อนชั้นได้ใน ค.ศ. 2009 แต่จากความไว้วางใจในตัวผู้เล่นที่ยืมมา ประกอบกับการขายดาวดังไป ทำให้ทีมต้องตกชั้นไปสู่ลีกวันในฤดูกาล 2011–2012 หนังออนไลน์ล่าสุด

เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด

มาทำความเข้าใจกับประวัติของ เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด ว่ามีความเป็นมาย่างไรบ้างมาดูกัน 

สโมสรเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ.1889 ที่โรงแรมอเดลฟี ในเมืองเชฟฟีลด์ (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงภาพยนตร์ครูซิเบิ้ล Crucible Theatre) โดยผู้ก่อตั้งคือ เซอร์ ชาร์ลส์ เคร็ก ประธานสโมสรคริกเก็ต เชฟฟีลด์ เว้นส์เดย์

ซึ่งเคยใช้สนามบรามอลล์ เลน มาก่อน ก่อนจะย้ายไปที่โอลีฟ โกรฟ ท่านเซอร์จึงต้องหาทีมใหม่มาเช่าสนามแทน ซึ่งก็คือเชฟฟีลด์ยูไนเต็ดนี่เอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายุคที่รุ่งเรืองที่สุด ของเชฟฟีลด์ยูไนเต็ดอยู่ในช่วง 40 ปีแรกของสโมสร ระหว่างปี 1895-1935

เมื่อพวกเขาในแชมป์ลีกสูงสุดในฤดูกาล 1897-98 รองแชมป์ในปี 1896-97 และ 1899-1900 ชนะเลิศเอฟเอ คัพ ปี 1899, 1902 ,1915 และ 1925 รองชนะเลิศปี 1901 และปี 1936 จากปี 1925 เป็นต้นมา พวกเขาก็ไม่เคยสัมผัสถ้วยแชมป์อีกเลย

หลังจากนั้นพวกเขาก็มักจะขึ้นชั้น ตกชั้น สลับกันไป พวกเขาเคยเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ บอลถ้วยในประเทศทั้งสองถ้วย และยังได้เตะเพลย์ออฟเลื่อนชั้นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อีกในฤดูกาล 2002-03 แต่ก็พลาดทั้งหมด

ช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดอยู่ในช่วงปี 1975 ถึง 1981 จากที่จบอันดับ 6 ดิวิชัน 1 ในฤดูกาล 1974-75 ปีต่อมาพวกเขากลับตกชั้นสู่ดิวิชัน 2 และอีก 3 ปีก็ตกชั้นอีกสู่ดิวิชัน 3 เท่านั้นยังไม่พอในปี 1981 พวกเขาก็ตกชั้นสู่ดิวิชัน 4 (ซึ่งเทียบเท่า ลีก ทูในปัจจุบัน)

แต่อยู่ได้แค่ปีเดียวพวกเขาก็กลับสู่ดิวิชัน 3 และแค่ 2 ปีก็เลื่อนชั้นกลับสู่ดิวิชัน 2 อีกครั้ง พวกเขาตกชั้นสู่ดิวิชัน 3 อีกครั้งในปี 1988 แต่หลังจากได้ผู้จัดการทีมคนใหม่คือ เดฟ บาสเซตต์ เขาก็ทำให้เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด กลับสู่ยุคที่ถือว่าประสบความสำเร็จอีกครั้ง

เมื่อใช้เวลาแค่ 2 ปีนำเชฟฟีลด์ยูไนเต็ดคืนสู่ ลีกสูงสุดอีกครั้งในปี 1990 หลังจาก 14 ปีที่ตกชั้นไป คราวนี้พวกเขาอยู่ได้ถึง 4 ฤดูกาล (เป็นหนึ่งในทีมที่อยู่ในยุคก่อตั้งพรีเมียร์ ลีก) และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพในฤดูกาล 1992-93 ก่อนตกชั้นไปในปี 1994 แทงบอล

12 ปีของเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด ที่ไม่ได้อยู่ในลีกสูงสุด 

พวกเขาไม่ได้อยู่ในลีกสูงสุดถึงอีก 12 ปี โดยในช่วงเวลาเหล่านั้นพวกเขา เกือบที่จะได้เลื่อนชั้นมาอยู่หลายครั้งเช่น เข้าถึงรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นในปี 1997 ซึ่งคุมโดย โฮเวิร์ด เคนดัลล์ ผู้รับตำแหน่งต่อจากเดฟ บาสเซตต์ อีกครั้งในปี 1998

โดยผู้จัดการทีมชั่วคราว สตีฟ ทอมป์สัน ปีถัดมาพวกเขาได้ นีล วอร์น็อก เข้ามาคุม แต่กลับสู่สภาวะที่ยากลำบากอีกครั้ง เมื่อจบอันดับเกือบท้ายตาราง และสถานการณ์ทางการเงิน ที่เข้าขั้นวิกฤตจึงไม่สามารถที่จะหาผู้เล่น มาเสริมทีมได้ตามที่ต้องการ

เมื่อถึงฤดูกาล 2002-03 ก็เป็นอีกฤดูกาลที่น่าจดจำ ของสโมสรเมื่อเข้ารอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยภายในประเทศทั้งสองรายการ และได้เพลย์ออฟ เลื่อนชั้น แต่ก็น่าเสียดาย ที่พลาดทั้งหมด

โดยรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตันไป 3-0 อย่างไรก็ตาม นีล วอร์น็อก ก็สามารถนำทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จในปี 2006 เมื่อพาทีมจบตำแหน่งรองชนะเลิศในลีกแชมเปี้ยนชิพ แต่อยู่ได้ปีเดียวก็ต้องตกชั้นไป

ท่ามกลางการโต้เถียงที่รุนแรงกับ คาร์ลอส เตเบซ (ถ้าจำกันได้ ปีนั้นแมทช์สุดท้าย คาร์ลอส เตเบซ เป็นคนยิงให้เวสต์แฮมบุกไปเอาชนะแมน ยูไนเต็ดถึงถิ่น ซึ่งก่อนแข่ง เวสต์แฮมมีแต้มเท่ากับ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ดแต่ลูกได้เสีย เชฟฟีลด์ยูไนเต็ดดีกว่า ทำให้เวสต์แฮม รอดตกชั้น ส่วนเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด ตกชั้น) หลังจากนั้นเขาก็ลาออก นิวคาสเซิ่ลยูไนเต็ด

ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก 

พวกเขาประสบกับช่วงเวลา ที่ยากลำบากอีกครั้งในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยค่าเหนื่อยที่ไม่เหมาะสมกับระดับฝีเท้า ของนักเตะประกอบกับช่วงเวลาที่ ประสบความสำเร็จสั้นเกินไป ในปี 2009

เควิน แบล็กเวลล์ พาทีมเข้าถึงรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ทีมเข้าสู่ยุคมืดมนอีกครั้ง ฤดูกาล 2010-11 ถือเป็นหายนะอย่างแท้จริง เมื่อพวกเขาเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปถึง 3 คน สุดท้ายก็ต้องตกชั้น ซึ่งคุมโดยมิกกี้ อดัมส์ นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องตกชั้น สู่ลีกวันเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี และเพียง 5 ปี เท่านั้นหลังจากที่อยู่ในพรีเมียร์ลีก

เชฟฟิลด์ยูไนเต็ดกับสนาม บรามอลล์ เลน 

สโมสรเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด เล่นที่สนามบรามอลล์ เลน ใกล้กับใจกลางเมืองเชฟฟีลด์ สนามบรามอลล์ เลน เป็นสนามฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ยังใช้เตะอยู่ในปัจจุบัน โดยเกมแรกต้องย้อนไปถึงปี ค.ศ. 1862

โดยเป็นการพบกันระหว่าง ทีมฮัลลัมกับทีมเชฟฟีลด์ คลับ และยังเป็นสนามแรกในโลกที่มีการเปิดไฟ ในสนามเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1878 โดยทีมที่มาเตะนั้นถูกเลือกโดย สมาคมฟุตบอลเมืองเชฟฟีลด์เอง

โดยไฟนั้นได้มาจากเครื่องปันไฟ 2 ตัว มีผู้ชมประมาณ 20,000 คน ในปี ค.ศ. 2009 สโมสรได้อนุญาตให้มีการต่อเติมสนามอีกครั้ง โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะขยายสนามฝั่งเดอะ คอปออกไป ซึ่งจะทำให้สนามมีความจุประมาณ 37,000 ที่นั่ง

และจะเอาสแตนด์ฝั่งหลักออก จากนั้นจะติดตั้งจอยักษ์เข้าไปที่หลังคา ในช่วงสอง สแตนด์ฝั่งวาลัด (แสตนด์ฝั่งอาโนลด์ ลาเวอร์เก่า) จะถูกต่อเติมทำให้มีความจุประมาณ 40,000 ที่นั่ง โดยเป้าหมายรองของการต่อเติมคราวนี้

ก็เพื่อการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ของอังกฤษในปี 2018 หรือ 2022 ซึ่งเมืองเชฟฟีลด์ถูกเลือกเป็นหนึ่งในเมือง ที่จะใช้จัดการแข่งขัน อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 2009 สมาคมฟุตบอลของอังกฤษได้เลือก สนามฮิลส์โบโร่ ของเชฟฟีลด์เวนส์เดย์ แทนหากอังกฤษได้เป็นเจ้าภาพ

เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้เทรเวอร์ เบิร์ช ประธานบริหารของเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด ต้องพักโครงการนี้ไว้ชั่วคราว จนกว่าสโมสรจะกลับสู่พรีเมียร์ ลีกอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หลังจากการตกชั้นในปี 2011 ดูเหมือนว่าโครงการนี้จะยิ่งเป็นไปไม่ได้ไปกันใหญ่

ตาราง-12-05-64-v