เควิน คีแกน อดีตนักฟุตบอลสวมเสื้อเบอร์ 7 ในขณะที่ค้าแข้งอยู่กับ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์รายการสำคัญต่างๆมากมาย

เควิน คีแกน วันนี้จะพามารู้จักกับ อดีตนักฟุตบอล และผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวอังกฤษ

เควิน คีแกน โจเซฟ เควิน คีแกน (เกิด 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1951) หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักในชื่อ เควิน คีแกน เป็นอดีตนักฟุตบอล และผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวอังกฤษ เขาเริ่มค้าแข้งกับ สกันทอร์ปยูไนเต็ด ใน ค.ศ. 1968 ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูล ใน ค.ศ. 1971 โดยสวมเสื้อเบอร์ 7 ในขณะที่ค้าแข้งอยู่กับ ลิเวอร์พูล นั้น

คีแกน สามารถคว้าแชมป์รายการ สำคัญต่างๆมากมาย ได้แก่ ดิวิชันหนึ่ง 3 สมัย, ยูฟ่าคัพ 2 สมัย, เอฟเอคัพ 2 สมัย และยูโรเปียนคัพอีก 1 สมัย เขาติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก ใน ค.ศ. 1972 ต่อมาใน ค.ศ. 1977 เขาตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม ฮัมบัวร์เกอร์ เอ็สเฟา ในการค้าแข้งกับ ฮัมบัวร์เกอร์ เอ็สเฟา เขาได้รับรางวัล นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี ของทวีปยุโรป 2 สมัย ติดต่อกัน คือ 1978 และ 1979

ในฤดูกาลเดียวกันเขาได้เป็น กำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ บุนเดิสลีกา ฤดูกาล 1978-79 และสามารถคว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพ ในปีถัดมาอีกด้วยหลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปร่วมทีม เซาแทมป์ตัน เป็นเวลา 2 ฤดูกาล ก่อนที่จะย้ายไปค้าแข้งกับ นิวคาสเซิล ใน ค.ศ. 1984 และสามารถพาทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จ ก่อนที่จะประกาศเลิกเล่นฟุตบอลในอีก 2 ปีถัดมา ในขณะที่ติดทีมชาติอังกฤษ ทั้งหมด 63 นัด และยิงได้ 21 ประตู ดูหนังออนไลน์

เควิน คีแกน

มาดูถึงสมัยเป็นนักเตะของ เควิน คีแกน ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง? มาดูไปพร้อมๆกันเลย

เขาเริ่มต้นเป็นนักฟุตบอล จากการเป็นเด็กฝึกหัดของ สกันทอร์ป ก่อนที่จะย้ายเข้าสู่ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 35,000 ปอนด์ คีแกนได้ลงเล่นเกมแรกให้ทีมชาติอังกฤษ เจอกับทีมชาติเวลส์ ที่คาร์ดิฟฟ์ ก่อนจะช่วยลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยใน 3 ปีแรกที่แอนฟีลด์

ต่อมาในปี 1973 ลิเวอร์พูลได้แชมป์ ยูฟ่าคัพ หลังจากสามารถเอาชนะ โบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค ได้สำเร็จ 3 ปีต่อมา คีแกน ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีหลังพาลิเวอร์พูล ชนะบรูเกส 4-3 ในประตูรวมคว้าแชมป์ ยูฟ่าคัพ อีกสมัย คีแกนนั้นถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญ ที่พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ยูโรเปียนคัพ

เป็นครั้งแรกหลังชนะกลัดบัค ก่อนที่เขาจะย้ายสู่ ฮัมบวร์ค ด้วยค่าตัว 500,000 ปอนด์ ในปี 1977 ฮัมบวร์คได้แชมป์บุนเดิสลีกา และคีแกนก็ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 1977-78 โดยฤดูกาลถัดมาเขายังได้รับรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปียุโรปอีกด้วย

ในปี 1980 คีแกน ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม เซาแทมป์ตัน ด้วยค่าตัว 420,000. ปอนด์ เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม แห่งปีของพีเอฟเอ ก่อนย้ายสู่นิวคาสเซิลด้วยค่าตัว 100,000 ปอนด์ คีแกน เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเขาลงเล่นให้กับนิวคาสเซิล ไปทั้งหมด 78 นัด ยิงได้ 48 ประตู

ก่อนจะประกาศเลิกเล่นในปี 1984 รวมคีแกนลงเล่นให้กับทุกสโมสรไป 592 นัด ยิงได้ 204 ประตู และลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ ทั้งหมด 63 นัด ยิงได้ 21 ประตู ใน ค.ศ. 1992 เขากลับสู่นิวคาสเซิลอีกครั้ง ในฐานะผู้จัดการทีม และพาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด ในฐานะแชมป์ได้สำเร็จ

หลังจากเลื่อนชั้นแล้ว คีแกน พาทีมคว้าอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 1995–96 หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายไปคุม ฟูลัม ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษใน ค.ศ. 1999 แต่คุมทีมเพียงแค่ปีเดียว เขาก็ขอลาออกจากตำแหน่ง

ปีถัดมาคีแกนตัดสินใจ เขาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ซิตี และคุมทีมได้นาน 4 ปี ก็ขอลาออกจากตำแหน่ง หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลอีกเลยเป็นเวลา 3 ปี ก่อนที่จะกลับมาคุม นิวคาสเซิล อีกเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2008 แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง ในวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 2008 เนื่องจากขัดแย้งกับบอร์ดบริหารของสโมสร แทงบอลโลก

เควิน คีแกนกับบทบาท ในฐานะผู้จัดการทีม นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (1992–1997)

เควิน คีแกน กลับสู่วงการฟุตบอลอีกครั้ง ในฐานะผู้จัดการทีมนิวคาสเซิล คุมทีมได้ 1 ปี คีแกนสามารถพานิวคาสเซิล เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ชิพ ได้ในฐานะแชมป์ดิวิชั่น 1 เดิม พร้อมได้รับรางวัลผู้จัดการทีม ยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของดิวิชั่น 1 ด้วย

ต่อมาในปี 1994 คีแกน ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการ ด้านฟุตบอลของนิวคาสเซิล ก่อนต่อสัญญากับทีมออกไปอีกรวม 10 ปี ต่อมานิวคาสเซิลจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 6 ในพรีเมียร์ชิพ ในปี 1996 นิวคาสเซิลเป็นได้เพียงรองแชมป์ ของพรีเมียร์ชิพเท่านั้น

โดยก่อนหน้านี้ นิวคาสเซิล นำแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นแชมป์ในปีนั้นห่างถึง 12 คะแนน และคีแกนยังมีปากเสียงกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผ่านการให้สัมภาษณ์ทางทีวี ก่อนที่เขาจะประกาศลาออก จากตำแหน่งในเวลาต่อมา เอฟเวอร์ตัน

ผู้จัดการทีมฟูลัม และทีมชาติอังกฤษ (1998–2000)

ในวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 1997 คีแกน ได้กลับสู่วงการฟุตบอลอีกครั้ง ในฐานะ COO ของฟูลัม ต่อมาคีแกนได้ตัดสินใจปลด เรย์ วิลกินส์ ผู้จัดการทีม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ของเขาออกจากตำแหน่ง หลังคุมทีมได้เพียง 7 เดือน ก่อนที่คีแกนจะรับหน้าที่เอง ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1999

คีแกน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม ชาติอังกฤษเป็นเวลา 4 นัด ก่อนต่อสัญญา พร้อมทำทีม ฟูลัม ไปด้วยซึ่ง คีแกน ก็ได้พาสโมสรคว้าแชมป์ ดิวิชั่น 2 หลังจากนั้นวันที่ 6 พฤษภาคม คีแกนได้เปิดเผยผ่านรายการทีวี ว่าจะสละตำแหน่ง COO ของฟูลัม เพื่อมาคุมทีมชาติอังกฤษเต็มตัว

ต่อมาวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2000 ทีมชาติอังกฤษเริ่มต้น ทัวร์นาเมนต์เวิลด์คัพ ได้อย่างน่าผิดหวัง หลังจากพ่ายแพ้ทีมชาติเยอรมัน 1-0 รอบคัดเลือก ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายที่เวมบลีย์ ก่อนที่จะถูกรื้อสร้างใหม่ ก่อนที่คีแกนจะเข้าหารือกับเอฟเอ และขอลาออกจากตำแหน่ง ในวันเดียวกัน

เควิน คีแกนกับเชสเตอร์ซิตี (2001–2005)

ในปี 2001 ได้ตัดสินใจเข้ารับตำแหน่ง ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ซิตี โดย คีแกน สามารถพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ตั้งแต่ปีแรกที่รับตำแหน่ง โดยทีมยิงไป 108 ประตู จบฤดูกาลด้วย 99 คะแนน หลังจากนั้นในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2004 แมนเชสเตอร์ซิตี แพ้เอฟเวอร์ตันที่เหลือ 10 คน 1-0

เป็นความปราชัยเกมที่ 3 ในรอบ 5 เกมแรกพรีเมียร์ลีก ของฤดูกาลใหม่ ทำให้ คีแกน เริ่มกดดันพร้อมมีข่าวว่า กำลังจะถูกไล่ออก ต่อมาในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2005 คีแกน ตัดสินใจลาออกจากสโมสร ด้วยข้อตกลงที่มีผลทันที หลังจากที่พ่ายแพ้โบลตัน คาบ้าน 1-0

ตาราง-12-05-64-v