อาเลสซันโดร เดล ปีเอโร ตำนานกองหน้าของ ยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

อาเลสซันโดร เดล ปีเอโร วันนี้จะพามารู้จักกับ นักฟุตบอลชาวอิตาลี และเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ยูเวนตุส

อาเลสซันโดร เดล ปีเอโร เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1974 ที่เมืองโกเนลยาโน ประเทศอิตาลี หรือที่เพื่อนๆต่างเรียกจนคุ้นหูกันว่า อาเล ปัจจุบันเป็นนักฟุตบอลของ เดลีไดนาโมส์ ในประเทศอินเดีย และเคยเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ยูเวนตุส

เดลปีเอโร เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีม ปาโดวา ก่อนที่จะถูกยูเวนตุสดึงตัวมาร่วมทีม เนื่องจากฝีเท้าที่แพรวพราว และเมื่อเขามา เขาก็ไม่ทำให้แฟนๆยูเวนตุส ต้องผิดหวัง เมื่อเขาสามารถช่วยให้ทีมของเขา ได้เป็นแชมป์ถึงหลายรายการ รวมถึงได้แชมป์โลกกับทีมชาติอิตาลี

ในศึก ฟุตบอลโลก 2006 เดล ปีเอโร นั้นมี ลีลาการเล่นที่สวยงาม มีเทคนิคการเลี้ยงบอลที่ดี การเปิดบอลก็แม่นยำ แล้วก็ลูกเตะฟรีคิกก็ยังเป็น ทีเด็ดอีกอย่างของ เดล ปีเอโร อีกด้วย เดล ปีเอโรมี ทีเด็ดอยู่ที่การยิงจากฝั่งซ้ายของเขตโทษ

ซึ้งเป็นการยิงที่เฉียบขาด มีชื่อเรียกกันว่า “เดอะเดลปีเอโรโซน” อาเลสซันโดร เดล ปีเอโร’ ตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปในช่วงปลายปี 2015 แล้วต้นปี 2016 ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของทีม มาร์ยอก้า ดูหนังออนไลน์

อาเลสซันโดร เดล ปีเอโร

มาดูประวัติของ อาเลสซันโดร เดล ปีเอโร ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง? มาดูไปพร้อมๆกันเลย

เดล ปีเอโร เริ่มต้นอาชีพ นักฟุตบอลของเขากับ สโมสรฟุตบอลปาโดวา ตั้งแต่อายุ 16 ปี และย้ายมาอยุ่กับสโมสรฟุตบอล ยูเวนตุส ในปี ค.ศ. 1993 โดยลงเล่นให้กับยูเวนตุสนัดแรก ในการพบกับ ฟอจจา และมายิงประตูได้นัดในถัดมาที่พบกับ เรจจิน่า

เขาสามารถยิง แฮทริกได้ครั้งแรกในนัดที่พบกับ ปาร์มา ตั้งแต่เดล ปีเอโรมาค้าแข่งอยู่กับยูเวนตุส เขาก็พายูเวนตุสคว้าแชมป์ต่างๆ มากมายหลายรายการ ทั้งแชมป์ลีก และแชมป์สโมสรยุโรป ในฤดูกาล 1998/99 เดล ปีเอโร ก็ต้องพบกับช่วงเลวร้ายที่สุด ของชีวิตนักฟุตบอล

เมื่อนัดที่ ยูเวนตุสพบกับอูดิเนเซ่ โดยนัดนี้เองที่เดล ปีเอโร ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงบริเวณหัวเข่า ซึ่งทำให้เอ็นหัวเข่าขาด และต้องพักรักษาตัวถึง 1 ฤดูกาลเต็มๆ แต่หลังจากการรักษาตัว เดล ปีเอโร ก็เริ่มกลับมาลงเล่นให้กับทีมอีกครั้ง แล้วก็พายูเวนตุส คว้าแชมป์ลีกได้อีก 2 สมัย

ทั้งยังได้เข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก อีกด้วย ปัจจุบันเขาเป็นกัปตันทีมยูเวนตุส และดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร โดยตอนนี้เขายิงไปแล้วทั้งสิ้น 195 ประตู แต่จบฤดูกาล 2005/06 ยูเวนตุสถูกปรับตกชั้น เนื่องจากคดีล้มบอล ทำให้ยูเวนตุสต้องลงไปแข่งใน ซีเรียบี

ทำให้ดาวดังของทีมหลายคน ต้องออกจากสโมสรไป แต่เดล ปีเอโร ตัดสินใจอยู่ช่วยทีมต่อไป พร้อมกับ พาเวล เนดเวด และ จานลุยจิ บุฟฟอน ซึ่งเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่เหลืออยู่ ทำให้ตอนนี้ ทั้ง 3 กลายเป็นตำนาน ของสโมสรฟุตบอลยูเวนตุสไปแล้ว

ในฤดูกาล 07/08 เดล ปีเอโร สามารถพายูเวนตุสที่พึ่งได้เลื่อนชั้น ขึ้นมาจาก ซีรี่ บี คว้าตำแหน่งอันดับที่ 3 ของซีรี่ เอ ทำให้ทีมได้ไปเตะฟุตบอลสโมสรยุโรปในฤดูกาลหน้า พร้อมทั้งเขาสามารถยิงประตูได้ถึง 21 ประตู ซึ่งเป็นดาวซัลโวสูงสุด ของลีกอิตาลีอีกด้วย

และเป็นครั้งแรกของ เดล ปีเอโรที่ได้รับรางวัลนี้ นับว่าฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาล ที่เยี่ยมยอดที่สุดของเขา นับจากหายเจ็บเมื่อครั้งปี 1998 ทีเดียว ซึ่งจากการทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นนี้ ส่งผลให้เขากลับไปติดทีมชาติอิตาลี อีกครั้ง เพื่อไปแข่งขันในศึกยูโร 2008 ในกลางปีนี้อีกด้วย แทงบอลโลก

อาเลสซันโดร เดล ปีเอโร

ในฤดูกาล 2008-2009 ของอาเลสซันโดร เดล ปีเอโร ยังเป็นกัปตันผู้นำทีมเช่นเดิม

ในฤดูกาล 2008/09 ยูเวนตุส ได้เสริมทีมมาอย่างดีพอสมควร และ เดล ปีเอโร เองก็ยังเป็นกัปตันผู้นำทีมเช่นเดิม ยูเวนตุสได้กลับไปเล่นใน ถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก อีกครั้งโดยหนนี้ในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 โดยการเอาชนะทีมอาร์ทมีเดียมาได้

ในนัดแรกแข่งขันกันที่ สนามโอลิมปิโก้ ที่เมือง ตูริน โดยยูเวนตุสเอาชนะไปได้ด้วย ผลการแข่งขัน 4-0 ในนัดแรก และเดล ปีเอโรก็สามารถทำประตูที่สุดสวย ในนัดนี้ได้อีกด้วย ก่อนที่นัดต่อมายูเวนตุส จะบุกไปเสมอกับอาร์ทมีเดีย ด้วยผลการแข่งขัน 1-1

ทำให้ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ด้วยประตูรวม 5-1 โดยในรอบแบ่งกลุ่มนั้น ยูเวนตุส ต้องไปอยู่ในกลุ่มที่แข็งแกร่งมาก เมื่อมีทีมอย่าง เรอัลมาดริด แห่งสเปน และเซนิธ เซ็นปีเตอร์เบิร์ก ยอดทีมจากรัสเซียร่วมกลุ่มอยู่ด้วย ส่วนอีกทีมที่อยู่ในกลุ่มนี้คือ เอฟซี บาเต้ ซึ่งเป็นทีมจากประเทศเบรารุส

ในนัดแรกนั้นยูเวนตุส เล่นในโอลิมปิโก้บ้านของพวกเขา เอาชนะ เซนิธ เซ็นปีเตอร์เบิร์ก ไปได้ด้วยผลการแข่งขัน 1-0 และก็เป็น เดล ปีเอโรที่ยิงประตูชัยด้วยลูกฟรีคิ๊กจากระยะไกล เข้าไปอย่างสวยงาม ส่วนในนัดที่ 2 ยูเวนตุสบุกไปทำได้แค่เสมอกับ เอฟซี บาเต้เท่านั้น

ด้วยผลการแข่งขัน 1-1 ส่วนในลีกนั้น ยูเวนตุส ยังไม่อาจหาฟอร์มเก่งได้ และเดล ปีเอโร สามารถทำได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น จากการยิงฟรีคิ๊ก ในนัดที่ยูเวนตุสแพ้ให้กับ ปาแลร์โม่ในบ้านของตัวเอง ด้วยผลการแข่งขัน 1-2 เอียน รัช

ฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1998 ของ เดล ปีเอโร

เดล ปีเอโร ได้ทำศึกฟุตบอลโลกครั้งแรก ในปี 1998 ซึ่งครั้งนั้นเขามาแรงมาก เนื่องจากหลายคนคาดว่าเขา จะเป็นตัวแทนของ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ตำนานเปียทองคำของอิตาลี แต่ในครั้งนั้น บาจโจ้ ก็ยังติดฟุตบอลทีมชาติอิตาลี อยู่เหมือนกัน ซึ่งผลงานในระดับชาติคงเดล ปีเอโรนั้น ไม่ค่อยดีนัก

ช่วงหลังมาเขาไม่ค่อยได้ลง เป็นตัวจริงบ่อยเท่าไร โดยในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2000 นั้น อิตาลีได้เข้าชิงชนะเลิศ พบกับฝรั่งเศส อิตาลีได้ประตูขึ้นนำก่อนจาก มาร์โก เดลเวคคิโอ้ และเกมส์ทำท่าจะดี และเดล ปีเอโร ก็ได้ลงมาในครึ่งหลัง

หลังจากนั้นเขามีโอกาสทอง ในการทำประตูฝรั่งเศสถึง 2 ครั้ง แต่เขายิงไม่ผ่านมือของ ฟาเบียง บากเตซ หลังจากนั้นฝรั่งเศสก็มาตีเสมอ ได้ในช่วงท้ายเกมส์จึงทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ และในช่วงต่อเวลานี่เอง ดาวิด เทรเซเก้ ก็มายิงประตูให้ ฝรั่งเศส พลิกกลับมาชนะอิตาลี และได้แชมป์ยูโร 2000 ไปครอง

ซึ่งนั่นเป็นฝันร้ายของเดล ปีเอโรในครั้งนั้น ต่อมาในศึกฟุตบอลโลก 2002 ที่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นเจ้าภาพร่วมกันนั้น อิตาลีฟอร์มไม่ค่อยจะดีนัก โดยนัดแรกชนะได้แต่นัดที่ 2 กลับแพ้ ทำให้นัดที่ 3 ต้องไม่แพ้สถานเดียว โดยนัดทื่ 3 พบกับ เม็กซิโก โดยอิตาลีต้องพบฝันร้ายเมื่อเม็กซิโก ขึ้นนำไปก่อนในครึ่งแรก

จากนั้นพอมาครึ่งหลัง เดล ปีเอโร ได้โอกาสลงสนาม และเขาก็เป็นผู้โหม่งตีเสมอ ให้อิตาลีรอดพ้นจากการตกรอบแรกได้ แต่อิตาลีก็ต้องมาตกรอบในนัดถัดมา เมื่อพบกับเกาหลีใต้ ซึ้งเป็นเจ้าภาพร่วมในครั้งนั้น และต่อมาในปี 2004 ซึ่งมีศึกยูโรนั้น อิตาลีก็ต้องจบเส้นทาง เพียงแค่รอบแรกเท่านั้น

แต่ปี 2006 อิตาลี กลับมาอีกครั้งใน ฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งครั้งนี้อิตาลีมีทั้งฟอร์มและโชค โดยอิตาลีสามารถชนะคู่แข่งมาได้ จนถึงรอบรองชนะเลิศ พวกเขาต้องพบกับเจ้าภาพเยอรมัน และอิตาลีก็มาได้ประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2 นาทีสุดท้ายจาก ฟาบิโอ กรอสโซ่

และเดล ปีเอโร ก็ยิงลูกสุดสวยในนาทีสุดท้าย และเป็นการลงมาพลิกเกมส์ ให้อิตาลีในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้อิตาลีผ่านเข้ารอบ ชิงชนะเลิศไปพบกับฝรั่งเศสตคู่แค้นเก่า เกมในเวลาเสมอกัน 1-1 จึงต้องต่อเวลาแต่ยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ ทำให้ต้องยิงจุดโทษตัดสิน และอิตาลีก็คว้าแชมป์โลก ได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 4 และเป็นแชมป์โลก ครั้งแรกของ เดล ปีเอโร อีกด้วย

ตาราง-12-05-64-v