สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด สโมสรฟุตบอลอาชีพ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ในประเทศสเปน

สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด มาทำความรู้จักเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพ ที่มีชื่อเสียงในลาลิกาสเปน

สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด (สเปน: Real Madrid Club de Fútbol) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศสเปน ตั้งอยู่ที่กรุงมาดริดเมืองหลวงของประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1902 เล่นในลาลีกา 

และเป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จ มากที่สุดในวงการฟุตบอลศตวรรษที่ 20 โดยสามารถคว้าแชมป์ลาลิกา 34 สมัย ถ้วยโกปาเดลเรย์ 19 สมัย ราชันชุดขาวนั้นเป็นสโมสร ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในประวัติศาสตร์รายการแข่งขันของยูฟ่า

ด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 13 สมัย และ ยูฟ่าคัพ 2 สมัย ซึ่งมากกว่าสโมสรอื่น ๆ ทุกสโมสร มีเพียงโทรฟียุโรปเดียวที่ เรอัลมาดริด ยังไม่เคยได้ นั่นคือ ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ ซึ่งมีสิทธิ์เล่น 2 ครั้ง แต่ก็พ่ายไปทั้งสองนัด โดยครั้งแรกแพ้ให้กับเชลซี 2-1 ในปี ค.ศ. 1971 

และเสมอ 1-1 ในนัดแรกก่อนที่จะแพ้ 1-0 ในนัดที่สองให้กับแอเบอร์ดีน ด้วยประตูรวม 2-1 ในปี ค.ศ 1983 เรอัลมาดริดยังเป็นสมาชิกของกลุ่มจี-14 ซึ่งเป็นกลุ่มของสโมสรฟุตบอลชั้นนำของยุโรปอีกด้วย ในการแข่งขันภายในประเทศ

สโมสรได้รับรางชนะเลิศรวม 66 ถ้วย ประกอบด้วย สถิติแชมป์ลาลีกา 34 สมัย สูงที่สุดในฟุตบอลสเปน, แชมป์ โคปาเดลเรย์ 19 สมัย, แชมป์ ซูเปอร์โคปาเดเอสปาญา 11 สมัย รวมทั้งแชมป์โคปาเอวาดูอาร์เต และโกปาเดลาลีกา ในการแข่งขันระดับยุโรปและระดับโลก

เรอัลมาดริดได้รับรางวัลชนะเลิศ 26 รายการ ประกอบด้วย สถิติแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ / ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสูงสุด 13 สมัย, ชนะเลิศ ยูฟ่า คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 4 สมัย รวมทั้งชนะเลิศรายการชิงแชมป์สโมสรโลก (Club world championships) จำนวน 4 สมัย 

สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด

ประวัติของ สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด มีที่มาที่ไปอย่างไรมาดูกัน 

 

ช่วงปีแรก (ค.ศ. 1897-1945) ต้นกำเนิดของสโมสรฟุตบอล เรอัลมาดริด ต้องย้อนกลับไปในช่วงที่กีฬาฟุตบอล ได้ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในกรุงมาดริด โดยนักวิชาการและนักศึกษา ของโครงการสถาบันการศึกษาเสรี (Institución Libre de Enseñanza)

ซึ่งมีผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เคมบริดจ์และออกซ์ฟอร์ด รวมอยู่ด้วย พวกเขารวมตัวกันสร้างสโมสร ฟุตบอลคลับสกาย ขึ้นในปี ค.ศ. 1897 โดยเล่นกันประจำในวันอาทิตย์ ตอนเช้าที่ย่านมองโกลอา

และต่อมาได้มีการแยกตัวออกเป็น 2 สโมสรในปี ค.ศ 1900 ได้แก่ นิว-ฟุตบอลเดมาดริด (New Foot-Ball de Madrid) และ กลุบเอสปัญญอลเดมาดริด (Club Español de Madrid) ในวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ 1902 หลังจากที่คณะกรรมการชุดใหม่ (ซึ่งมีฆวน ปาโดรส เป็นประธาน)

ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา สโมสรฟุตบอลมาดริด จึงได้รับการก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ สามปีหลังหลังจากที่ก่อตั้งสโมสรขึ้นได้สามปี ในปี ค.ศ 1905 สโมสรมาดริด สามารถคว้าแชมป์การแข่งขัน ได้เป็นครั้งแรก หลังจากเอาชนะอัตเลติกเดบิลบาโอ ไปในการแข่งขันสแปนิชคัพ รอบชิงชนะเลิศ

สโมสรฟุตบอลมาดริด กลายเป็นหนึ่งในสมาชิก ก่อตั้งราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปน ในวันที่ 4 กรกฏาคม ค.ศ. 1909 เมื่อประธานสโมสร อาดอลโฟ เมเลนเดช ได้ลงนามข้อตกลง ตามรากฐานของสเปนเอฟเอคัพ มังงะ

หลังจากเปลี่ยนสถานที่ฝึกซ้อมอยู่หลายแห่ง ในปี ค.ศ. 1912 สโมสรก็ได้เปิดใช้สนามของตนเองเป็นครั้งแรกที่กัมโปเดโอโดเนล (Campo de O’Donnell) และในปี ค.ศ 1920 สโมสรได้เปลี่ยนชื่อเป็น เรอัลมาดริด (Real Madrid)

หลังจากที่พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 13 แห่งสเปน ได้พระราชทานตำแหน่ง “เรอัล” (ในภาษาสเปน แปลว่า ของกษัตริย์หรือของหลวง) ให้กับสโมสร ในปี ค.ศ 1929 ได้มีการก่อตั้งระบบการแข่งขันระหว่างสโมสรในสเปน ขึ้นเป็นครั้งแรก

เรอัลมาดริดสามารถครองอันดับที่ 1 มาตลอดในช่วงนัดแรกของฤดูกาล จนมาถึงนัดสุดท้ายซึ่งแพ้ให้กับ อัตเลติกเดบิลบาโอ ทำให้สโมสรได้แค่อันดับที่ 2 และพลาดตำแหน่งแชมป์ให้กับสโมสรฟุตบอล บาร์เซโลนา 

เรอัลมาดริด สามารถได้แชมป์ลีกสเปนได้ครั้งแรกในฤดูกาล 1931-1932 และในปีถัดมาพวกเขาก็สามารถคว้าแชมป์ลีก ได้อีกครั้งเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน จึงทำให้สโมสรนี้เป็นทีมแรก ในลีกสเปนที่คว้าแชมป์ติดต่อกันสองสมัย 

สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด

ฤดูกาล (2013-2015) สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดกับ อันเชลอตตี และ ลาเดซีมา

ในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ 2013 สโมสรได้เซ็นสัญญากับการ์โล อันเชลอตตี ผู้จัดการทีมที่เคยเป็นตำนานนักเตะของ เอซี มิลาน และเมื่อคุมทีมก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ยุโรป ได้ถึงสองครั้งมาเป็นผู้จัดการทีม ในวันที่ 1 กันยายน 

สโมสรได้เซ็นสัญญากับแกเร็ธ เบล นักเตะชาวเวลส์ จาก ทอตนัมฮอตสเปอร์ส ใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยค่าตัวสถิติโลกถึง 100 ล้านยูโร ในฤดูกาลแรกของ อันเชลอตตี ทีมสามารถคว้าแชมป์ โกปาเดลเรย์ ด้วยการชนะ บาร์เซโลนา 2-1

ซึ่งเบลทำประตูชัยด้วย และยังสามารถคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เป็นสมัยที่ 10 โดยชนะ อัตเลติโกเดมาดริด ในช่วงต่อเวลาได้ถึง 4-1 เป็นการล้างแค้นหลังจากที่ทีมทำได้แค่อันดับ 3 ใน ลาลิกา สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา

ซึ่งคว้าแชมป์ยุโรปครั้งนี้ของทีม มีชื่อเรียกกันว่า ลาเดซีมา (La Decima) ในฤดูกาลต่อมา เรอัลมาดริดทำสถิติ ชนะติดต่อกันถึง 21 นัด (ลาลิกา 12 นัด, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 6 นัด, โกปาเดลเรย์ 2 นัด และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 1 นัด) แต่สุดท้ายแล้วทีมจบฤดูกาลด้วยมือเปล่า ทำให้ อันเชลอตตี ถูกปลดออกจากตำแหน่ง

เบนีเตซ, และซีดาน ในฤดูกาล (2015-2018)

ในวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ 2015 สโมสรได้แต่งตั้ง ราฟาเอล เบนิเตช ผู้ที่เคยพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี ค.ศ 2005 เข้ามาคุมทีม แต่ปรากฏว่าทำผลงานได้ย่ำแย่มาก โดยชนะแค่ 11 จาก 18 นัดในการคุมทีมตลอด 7 เดือน

ทำให้ เบนิเตซ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ในวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 2016 และได้แต่งตั้ง ซีเนอดีน ซีดาน ซึ่งในชณะนั้นคุมทีมสำรอง อยู่เข้ามาคุมทีมแทนและสามารถพาทีมบุกไปชนะ บาร์เซโลนา 2-1 ได้ถึงถิ่น กัมนอว์ 

คว้ารองแชมป์ ลาลิกา โดยที่มีคะแนนตาม บาร์เซโลนา เพียงคะแนนเดียว และสามารถคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ได้สำเร็จ หลังดวลจุดโทษชนะ อัตเลติโกมาดริด คู่ปรับเก่าในปี ค.ศ 2014 ไปได้ 5-3 หลังในเวลา 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ใน รอบชิงชนะเลิศ

สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดกับ สนามเหย้า ซานเตียโก เบร์นาเบว

สนามเหย้าของสโมสร คือ สนามซานเตียโก เบร์นาเบว อันมีชื่อเสียงแห่งกรุงมาดริด เรอัลมาดริด เป็นสโมสรที่มีหุ้นส่วน (socios) เป็นเจ้าของและเป็นผู้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1902 ซึ่งแตกต่างกับสโมสรส่วนใหญ่ เมื่อวันที่ 23 ธันววคม ค.ศ 2000

ฟีฟ่าได้จัดว่า เรอัลมาดริด เป็นสโมสรที่ดีที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 เรอัลมาดริด ยังเป็นสโมสรที่ใหญ่ที่สุด และได้รับความนิยมสูงสุดในโลก จากกรณีศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในปี ค.ศ. 2007 และยังเป็นสโมสรที่ทำรายได้มากที่สุดในโลกอีกด้วย 

เรอัลมาดริด เคยเดินทางมาเตะกับ ทีมชาติไทย ในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ 2548 (ค.ศ. 2005) ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน ผลการแข่งขัน เรอัลมาดริด สามารถชนะ ทีมชาติไทย ไปด้วยสกอร์ 2–1

ตาราง-12-05-64-v