สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล Liverpool Football Club ในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ

สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล มาทำความรู้จักถึงความเป็นมา ของสโมสรดังในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล  (อังกฤษ: Liverpool Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพตั้งอยู่ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ แข่งขันอยู่ในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สำหรับการแข่งขันภายในประเทศ

ลิเวอร์พูลชนะเลิศลีกสูงสุด 19 สมัย, เอฟเอคัพ 7 สมัย, ลีกคัพ 8 สมัยและเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 15 สมัย ส่วนการแข่งขันระดับนานาชาติ ลิเวอร์พูลชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 6 สมัย, ยูฟ่าคัพ 3 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 4 สมัยและฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ 1 สมัย

สโมสรก่อตั้งใน ค.ศ. 1892 และได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลลีกในปีต่อมา ลิเวอร์พูล ใช้สนามแอนฟีลด์ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์คือช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ถึงคริสต์ทศวรรษ 1980

เมื่อบิล แซงคลี, บ๊อบ เพสลีย์, โจ เฟแกนและเคนนี แดลกลีช พาทีมชนะเลิศลีกสูงสุด 11 สมัยและยูโรเปียนคัพ 4 ใบ ต่อมาลิเวอร์พูลชนะเลิศการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนลีกอีก 2 สมัย ภายใต้การคุมทีมของ ราฟาเอล เบนิเตชและเยือร์เกิน คล็อพตามลำดับ

ซึ่ง คล็อพ สามารถนำทีมชนะเลิศลีกสูงสุดในฤดูกาล 2019-20 นับเป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดสมัยที่ 19 และสมัยแรกของยุคพรีเมียร์ลีก โดยเป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปี ลิเวอร์พูลมีสโมสรคู่แข่งซึ่งแข่งขันด้วยกัน มาอย่างยาวนาน

ได้แก่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน ลิเวอร์พูลใช้เสื้อสีแดงและกางเกงขาสั้นสีขาว เป็นชุดแข่งขันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1896 ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มตัว เมื่อเล่นเป็นทีมเหย้าตั้งแต่ ค.ศ. 1964 เป็นต้นมา ฉายาในภาษาอังกฤษของลิเวอร์พูลคือ “เดอะเรดส์” (The Reds) ส่วนฉายาที่ชาวไทยนิยมเรียกคือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลมีเพลงประจำสโมสรคือ “ยูลล์เนฟเวอร์วอล์กอะโลน” (You’ll Never Walk Alone) มังงะ 

สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล

วันนี้มาดูประวัติ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล มีความเป็นมาอย่างไร

สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ก่อตั้งหลังเกิดข้อพิพาทระหว่าง คณะกรรมการของเอฟเวอร์ตันกับจอห์น โฮลดิง ประธานสโมสรและเจ้าของที่ดินแอนฟิลด์ เอฟเวอร์ตันย้ายไปกูดิสันพาร์กใน ค.ศ. 1892 หลังใช้งานแอนฟีลด์เป็นระยะเวลาแปดปี

และโฮลดิงก่อตั้งสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล เพื่อเล่นในแอนฟีลด์ แต่เดิมใช้ชื่อว่า “สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันและแอตแลติกกราวด์สจำกัด” (อังกฤษ: Everton F.C. and Athletic Grounds Ltd) (หรือเรียกสั้นๆว่า เอฟเวอร์ตันแอตแลติก)

สโมสรกลายเป็นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1892 และได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ ในอีกสามเดือนต่อมา หลังสมาคมฟุตบอลปฏิเสธที่จะยอมรับ สโมสรว่าเป็นเอฟเวอร์ตันลิเวอร์พูล ลงแข่งขันครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1892

เป็นการแข่งขันนัดกระชับมิตร ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล โดยพบกับ รอเทอร์ดามทาวน์ ลิเวอร์พูลชนะด้วยผลประตูรวม 7–1 โดยผู้เล่นลิเวอร์พูลที่ลงสนามในนัดดังกล่าวนั้น เป็นชาวสก็อตแลนด์ทั้งหมด โดยผู้เล่นที่มาจากสก็อตแลนด์ เพื่อมาเล่นในอังกฤษในเวลานั้น

มักจะเรียกว่า สก็อตจ์โปรเฟสเซอร์ส ผู้จัดการทีม จอห์น แมกเคนนา เดินทางไปสกอตแลนด์เพื่อมองหาผู้เล่น หลังคัดเลือกผู้เล่นแล้ว พวกเขากลายเป็นที่รู้จักในนาม “ทีมออฟแมกส์” ทีมชนะเลิศแลงคาเซอร์ลีก ในฤดูกาลแรกที่ลงเล่น และเข้าร่วมฟุตบอลเซคันดิวิชั่นในฤดูกาล 1893–94

หลังชนะเลิศรายการดังกล่าว ทีมก็ได้เลื่อนชั้นสู่เฟิสต์ดิวิชั่น แล้วก็ชนะเลิศใน ค.ศ. 1901 และ 1906 ลิเวอร์พูลเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ของเอฟเอคัพครั้งแรกใน ค.ศ 1914 โดยแพ้ให้กับ เบิร์นลีย์ ด้วยผลประตู 1–0 ลิเวอร์พูลชนะเลิศลีกสูงสุดติดต่อกันใน ค.ศ. 1922 และ 1923

แล้วก็ไม่ชนะเลิศอีกเลยจนกระทั่งฤดูกาล 1946–47 เมื่อสโมสรชนะเลิศเฟิสต์ดิวิชัน เป็นสมัยที่ห้าภายใต้การคุมทีมของ จอร์จ เคย์ อดีตผู้เล่นกองหลังตัวกลางเวสต์แฮมยูไนเต็ด ลิเวอร์พูลแพ้ในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพอีกครั้ง

โดยแพ้ให้กับ อาร์เซนอล ใน ค.ศ. 1950 สโมสรตกชั้นไปเซคันด์ดิวิชันในฤดูกาล 1953–54 หลังจากลิเวอร์พูลแพ้วุร์สเตอร์ซิตี้ สโมสรฟุตบอลนอกลีก ในเอฟเอคัพ ฤดูกาล 1958–59 สโมสรได้แต่งตั้งให้ บิล แชงคลี เป็นผู้จัดการทีม

เมื่อได้รับตำแหน่ง เขาปล่อยผู้เล่นจำนวน 24 คน และเปลี่ยนห้องเก็บรองเท้า ที่แอนฟีลด์ให้กลายเป็นห้องสำหรับเหล่าผู้ฝึกสอน วางแผนการเล่น แชงคลี และสมาชิก “บูตรูม” คนอื่น ประกอบด้วย โจ เฟแกน, รูเบน เบนเน็ตต์ และ บ๊อบ เพสลีย์ เริ่มสร้างทีมใหม่กันที่นี่ UFABET

สีชุดแข่ง สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล

ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ ของประวัติศาสตร์ลิเวอร์พูล สีชุดทีมเหย้าของสโมสรเป็นสีแดงล้วน แต่ในช่วงที่สโมสรเพิ่งก่อตั้ง ชุดทีมเหย้าจะคล้ายกับเอฟเวอร์ตัน ในสมัยนั้นโดยเป็นเสื้อ แบ่งสี่ส่วนสีฟ้าขาว ชุดดังกล่าวใช้ในการแข่งขันจนถึง ค.ศ. 1894

เมื่อสโมสรนำสีแดงซึ่งเป็นสีประจำเมือง มาใช้ตั้งแต่ ค.ศ. 1901 สโมสรใช้ นกไลเวอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลิเวอร์พูล เป็นตราสโมสร แต่ยังไม่ถูกนำมาอยู่ในชุดแข่งจนกระทั่งใน ค.ศ. 1955 ลิเวอร์พูลใส่ชุดแข่งขันเป็น เสื้อสีแดงและกางกางขาสั้นสีขาว จนถึง ค.ศ. 1964

เมื่อผู้จัดการทีม บิลล์ แชงคลี ตัดสินใจเปลี่ยนให้เป็นสีแดงล้วน ลิเวอร์พูลลงเล่นในชุดสีแดงล้วนครั้งแรก ในนัดที่พบกับ อันเดอร์เลคต์ เอียน เซนต์ จอห์น ระลึกถึงในอัตชีวประวัติของเขา [แชงคลี] คิดว่าโทนสีจะส่งผลกระทบทางจิตวิทยา

สีแดงคือความอันตราย สีแดงคือพลัง วันหนึ่งเขาเข้ามาในห้องแต่งตัว และโยนกางเกงขาสั้นสีแดงคู่หนึ่ง ให้กับรอนนี ยีตส์ “ใส่กางเกงขาสั้นนั่นซะและมาดูว่าคุณเป็นยังไง” เขาพูด “ให้ตายเถอะ รอนนี คุณดูดีมาก ดูน่ากลัว คุณดูเหมือนสูง 7 ฟุต” “ทำไมไม่ทำให้มันสมบูรณ์แบบไปเลยล่ะ หัวหน้า” ผมเสนอ “ทำไมไม่สวมถุงเท้าสีแดงล่ะ ใส่สีแดงล้วนให้หมดไปเลย” แชงคลีอนุมัติและชุดที่เป็นที่จดจำก็ถือกำเนิดขึ้น

ความเป็นมาของตราสโมสร

ตราสโมสรของลิเวอร์พูล มีนกไลเวอร์สัญลักษณ์ของเมือง ซึ่งในอดีตถูกนำมาใส่ต่อมาใน ค.ศ. 1992 ซึ่งเป็นปีที่มีการรำลึกถึงร้อยปีของสโมสร มีการออกแบบตราสโมสรใหม่ โดยนำสัญลักษณ์ที่อยู่บนประตูแชงคลีมา ใส่ไว้ด้วย

ปีต่อมามีการใส่คบเพลิงคู่ ไว้ทั้งสองด้านของตราสโมสร เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของอนุสรณ์ สถานฮิลส์โบโร ที่ตั้งอยู่ด้านนอกแอนฟีลด์ และระลึกถึงผู้เสียชีวิตในภัยพิบัติฮิลส์โบโรใน ค.ศ. 2012 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

ชุดแข่งแรกของ วอร์ริเออร์สปอร์ตส์ นำโล่และประตูออกไป เหลือแค่นกไลเวอร์เหมือน กับชุดแข่งในทศวรรษ 1970 คบเพลิงถูกย้ายไปอยู่ด้านหลังเสื้อ ล้อมตัวเลข 96 ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตในภัยพิบัติฮิลส์โบโร

สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลคู่แข่งเอฟเวอร์ตัน แข่งขันด้วยกันยาวนานที่สุด

คู่แข่งของลิเวอร์พูล ที่แข่งขันด้วยกันยาวนานที่สุดก็คือ เอฟเวอร์ตัน โดยเรียกการแข่งขันนี้ว่าเ มอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี จุดเริ่มต้นของการเป็นคู่แข่งนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่การก่อตั้งของลิเวอร์พูล และข้อพิพาทระหว่างคณะกรรมการของเอฟเวอร์ตัน

กับเจ้าของแอนฟีลด์เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี เป็นหนึ่งในดาร์บีท้องถิ่นที่ไม่มีการบังคับ แบ่งแยกผู้สนับสนุนทั้งสองฝ่าย จึงเป็นที่รู้จักในฐานะ “ดาร์บีมิตรภาพ” ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 การแข่งขันเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งในสนามและนอกสนาม

โดยเฉพาะตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ลีกใน ค.ศ. 1992 เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บีเป็นการแข่งขัน ที่มีผู้เล่นได้รับใบแดงและถูกไล่ออกจากสนาม มากกว่านัดการแข่งขันอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็น “การแข่งขันที่ไร้กติกาและเดือดที่สุดในพรีเมียร์ลีก” ในแง่ของการสนับสนุนภายในเมือง จำนวนของผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลนั้น มีมากกว่าเอฟเวอร์ตันในอัตราส่วน 2:1

ตาราง-12-05-64-v