มิดฟิลด์ที่ดีที่สุด ลูก้า โมดริช ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลาง ให้กับเรอัลมาดริด และทีมชาติโครเอเชีย

มิดฟิลด์ที่ดีที่สุด วันนี้จะพามารู้จัก ลูก้า โมดริช กองกลางฟุตบอลที่ดีที่สุด

มิดฟิลด์ที่ดีที่สุด ผู้ชนะรางวัล Ballon d’Or ปี 2018 ลูก้า โมดริช สมควรได้รับตำแหน่งที่หนึ่ง ในบรรดากองกลางฟุตบอลที่ดีที่สุด ปัจจุบันเขาเล่นให้กับลาลีกาของเรอัลมาดริด นอกจากนี้เขายังเล่นเป็นกองกลาง ให้กับทีมชาติโครเอเชีย

หลังจากเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลที่ ดินาโม ซาเกร็บ เขาก็ย้ายไป ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในปี 2008 ในที่สุดเขาก็ย้ายไปเรอัล มาดริดในปี 2012 เมื่อเร็วๆนี้ ลูก้า โมดริช ช่วยทีมโครเอเชีย ได้อันดับสองในฟุตบอลโลก 2018 นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัล FIFA Best Male Player

และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี ของโลกในปี 2018 นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า สำหรับฤดูกาล 2017-18 โมดริช ยังได้รับรางวัล IFFHS สำหรับผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก และนักกีฬา AIPS แห่งปี 2018 มังงะ

มิดฟิลด์ที่ดีที่สุด

มาดูประวัติ มิดฟิลด์ที่ดีที่สุด ลูก้า โมดริช ว่ามีความเป็นมาอย่างไร มาดูกัน 

ลูก้า โมดริช เกิดที่ ซาดาร์ ยูโกสลาเวีย ระหว่างสงครามปลดปล่อยตัวเอง ของโครเอเชีย โมดริช และครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้าน โมดริซี ใกล้กับ โอโบรวัช แต่พวกเขาต้องถูกบังคับ ให้อพยพไปจากบริเวณดังกล่าว เมื่อตอนที่โมดริช อายุ 6 ขวบ

โดยพ่อของเขา สติเป เคยเป็นทหารโครเอเชีย และเขาเสียปู่ของตัวเองจากการสู้รบ ขณะที่ครอบครัวของเขากำลังหลีกภัย ในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ ซาดาร์ พ่อของโมดริช กลับไปรับราชการทหารอีกครั้ง โดยเขาใช้เงินที่มีอยู่น้อยนิดในครอบครัว

ผลักดันลูกชายของตัวเอง เข้าโรงเรียนฟุตบอลในท้องถิ่น ลังจากได้โชว์พรสวรรค์ด้านฝีเท้า ให้หลายคนได้เห็น โมดริช ได้เซ็นสัญญากับ ดินาโม ซาเกร็บ ตอนอายุ 17 ปี ในปี 2002 ก่อนจะได้สัญญาถาวรในอีก 3 ปีถัดมา

ตอนอายุครบ 20 ปี อย่างไรก็ตาม ซีซั่นแรกของเจ้าตัวไม่น่าประทับใจนัก เมื่อกองกลางร่างเล็ก ไม่อาจเบิกสกอร์แรกให้กับตัวเองได้ ทว่า โมดริช เริ่มแข็งแกร่งขึ้นในปีถัดมา ก่อนจะตะบันไปถึง 7 ลูก จากการลงสนาม 31 นัด

และเจ้าตัวสามารถค้นพบตัวเอง ในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ในระบบ 4-2-3-1 อีกด้วย พร้อมกับช่วยต้นสังกัด คว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลดังกล่าว ซีซั่น 2006-07 โมดริช ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะพา ดินาโม ป้องกันแชมป์ลีกไว้ได้

อีกทั้งยังได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีก ประจำปีนั้นด้วยอย่างไรก็ตามช่วงต้นซีซั่น ดาวเตะร่างจิ๋ว เจองานยากลำบากพอสมควร เพราะอยู่ในช่วงปรับตัว อีกทั้งเกมในอังกฤษเล่นกันหนัก ด้วยสรีระอันผอมบาง ส่งผลให้เจ้าตัวต้องล้มลุกคลุกคลาน มากกว่าพาบอลไปข้างหน้า

ประกอบกับ โมดริช ถูกจับให้มาเล่นตำแหน่งซึ่งไม่คุ้นเคย อย่างมิดฟิลด์ตัวเชื่อมเกม (ต้องลงมาช่วยเกมรับ) ในระบบ 4-4-2 ทั้งที่ตำแหน่งของเขาต้องเป็นหน้าต่ำเท่านั้น ซ้ำร้ายกองกลางจอมเทคนิค ยังเจออาการบาดเจ็บเล่นงานจนเข้าๆออกๆในทีม

อนาคตของ โมดริช ทำท่าจะมืดมนแต่หลังจาก รามอส ถูกปลดออกไป พร้อมกับการเข้ามาของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือใหม่ ทำให้ ลูก้า เปลี่ยนเป็นคนละคน หลังจากถูกจับไปเล่นตำแหน่งถนัด คือหน้าต่ำ อยู่หลังกองหน้าอย่าง โรมัน พาฟลิวเชนโก้ สลับกับ ดาร์เรน เบนท์ ซึ่งในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนั้นเอง โมดริช กลับมาเป็นคนเดิมเหมือนกับที่เคยเล่นให้ ดินาโม ซาเกร็บ และทีมชาติโครเอเชียอีกครั้ง ก่อนจะพาทีมจบอันดับ 8 ในลีก

ลูก้า โมดริชมิดฟิลด์ที่ดีที่สุด กับสโมสร เรอัล มาดริด 

12 สิงหาคม หลังจากตกเป็นข่าวว่าทีมยักษ์ใหญ่ ต่างแย่งชิงดาวเตะรายนี้ไปร่วมทีม ในที่สุดก็ได้ข้อตกลงว่าเป็น เรอัล มาดริด มหาอำนาจจากสเปนคว้าตัว ไปร่วมทัพได้จนได้ด้วยสัญญาระยะยาว 5 ปีเต็ม และราคาอยู่ที่ 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,314 ล้านบาท)

หลังจากนั้น 2 วันประเดิมลงสนามเป็นตัวสำรอง ในเกมสำคัญที่พบกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า สแปนิช ซูเปอร์ คัพ และต้นสังกัดก็สามารถเอาชนะไปได้จึงกลายเป็นโทรฟี่แรก ที่เจ้าตัวคว้าได้หลังจากเซ็นสัญญาได้เพียง 36 ชั่วโมงเท่านั้น

แต่ถึงอย่างงั้น โมดริช ที่อยู่ภายใต้การคุมบังเหียนของ โจเซ่ มูรินโญ่ ยังต้องจำเป็นต้องปรับตัวอีกเยอะ จนช่วงแรกตกเป็นสำรองซะส่วนใหญ่ 3 พฤศจิกายน พังประตูแรกในสีเสื้อราชันชุดขาวได้สำเร็จ ในการถล่มเอาชนะ เรอัล ซาราโกซ่า ขาดลอย 4-0

แต่ด้วยผลพวงจากการลงสนาม ที่ไม่ต่อเนื่องทำให้มิดฟิลด์โครแอตรายนี้ ยังโชว์ฟอร์ไม่ดีเหมือนตอนที่อยู่คลับไก่ จึงส่งผลให้ตัวเขาทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เท่าไหร่นักในฤดูกาลแรกกับ เรอัล มาดริด แทงบอลออนไลน์

ลูก้า โมดริชในฤดูกาล 2014-2015 

จากผลงานที่มีแต่จะดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ “ราชันชุดขาว” ไม่รอช้าทำการจับเจ้าตัวยืดสัญญาใจ ออกไปจนถึงปี 2018 พร้อมกับต้อนรับคู่หูคนใหม่อย่าง โทนี่ โครส ที่ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ในเยอรมัน จั่วหัวซีซั่นนี้ด้วยการลงเล่นถ้วยยูฟ่า คัพ

ที่ต้องพบ เซบีญ่า ทีมร่วมลีกก่อนจะเอาชนะไปได้ ประเดิมถ้วยแรกในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ ในช่วงท้ายของเดือน พฤศจิกายน เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บหนักที่หน้าแข้ง ในเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติอิตาลี่ พร้อมกับคอนเฟิร์มว่าจะไม่ได้ลงเล่น ฟุตบอลยาวนานถึง 3 เดือนด้วยกัน

จนกระทั่งต้นเดือนมีนาคม 2015 เจ้าตัวกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง และกำลังอยู่ในช่วงเค้นฟอร์มเก่งกลับมา เหมือนเดิมแต่ก็ต้องโชคร้ายอีกครั้ง เพราะในเกม ลา ลีกา ที่เอาชนะมาลาก้า 3-1 โมดริช ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า จนถึงขึ้นหมดสิทธิ์ลงเล่นในซีซั่นนี้ แล้วและแย่ไปกว่านั้นก็คือ เมื่อมิดฟิลด์ร่างจิ๋วขาดหายไป ราชันชุดขาว โชว์ฟอร์มเก่งไม่ออก เลยจนชวดแชมป์ในฤดูกาลนั้นไป 5นักเตะเอเชียค่าตัวสูง

มิดฟิลด์ที่ดีที่สุดลูก้า โมดริช กับฤดูกาล 2015-2016

คาร์โล อันเชล็อตติ ตัดสินใจลาออกจากการเป็น กุนซือและแทนที่ด้วย ราฟาเอล เบนิเตซ ถึงแม้จะเปลี่ยนคนกุมบังเหียนกี่ครั้ง โมดริช ก็ยังคงเป็นคีย์แมนประจำทีมเช่นเดิม หลังจากสลัดคราบเดี้ยงกลับมาได้

เจ้าตัวก็ยังผลิตการแอสซิสต์ ให้กับเพื่อนร่วมทีมอยู่เรื่อยๆแต่พอถึง ช่วงรับใช้นามทีมชาติ โมดริช ก็ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ถึงผลงานของทีมค่อยๆถดถอยไปอีกครั้ง จนสโมสรตัดสินใจปลด ราฟาเอล เบนิเตซ กลางคัน

และทดแทนที่ลูกหม้ออย่าง ซีเนอดีน ซีดาน ก่อนจะพา เรอัล มาดริด กลับมาเป็นทีมเดิมที่ฟอร์มเก่งอีกครั้ง ซึ่งหลังจาก ซีดาน เข้ามากุมบังเหียน โมดริช ได้ออกมาเผยว่า ซีดาน จะกลายเป็นกุนซือที่ยอดเยี่ยม ในอนาคตได้เพราะเขามีสัมพันธ์ที่ดีกับลูกทีมทุกคน หลังจากสลัดคราบเดี้ยงกลับมาได้ 7 กุมภาพันธ์ กลายเป็นฮีโร่ซัดชัยพาทีมเฉือน กรานาด้า 2-1 และพร้อมกลับมาเป็นตัวหลักอีกครั้ง

ตาราง-12-05-64-v