ฟุตบอลทีมชาติเวลส์ เป็นหนึ่งในทีมฟุตบอล ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลทีมชาติเวลส์ วันนี้จะพามารู้จักกับ ทีมชาติเวลส์ มีฉายาที่ตั้งขึ้นโดย สื่อมวลชนกีฬาในประเทศไทยว่า มังกรแดง

ฟุตบอลทีมชาติเวลส์ เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนของประเทศ เวลส์ ในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างชาติ บริหารงานโดย สมาคมฟุตบอลเวลส์ (FAW) และเป็นสมาชิกของยูฟ่า แม้ประเทศเวลส์ จะไม่ใช่ดินแดนที่เป็นรัฐเอกราช โดยมีฐานะเป็นส่วนหนึ่งของ สหราชอาณาจักร

แต่ก็มีสมาคมฟุตบอล และทีมชาติเป็นของตนเอง โดยเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอล ระหว่างชาติในรายการสำคัญๆ ทุกรายการของฟีฟ่าและยูฟ่า อย่างไรก็ตามสำหรับการแข่งขันฟุตบอล ในกีฬาโอลิมปิก ประเทศในเครือสหราชอาณาจักร อันประกอบไปด้วยอังกฤษ, สก็อตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ

ต้องรวมทีมกันลงแข่งขันภายใต้ชื่อของ สหราชอาณาจักร ทีมชาติเวลส์ จัดเป็นฟุตบอลทีมชาติ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอันดับที่ 3 รองจากทีมชาติอังกฤษ และทีมชาติสก็อตแลนด์ แต่เคยผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ในรายการสำคัญๆ เพียงแค่ 3 ครั้ง

คือฟุตบอลโลกปี 1958 ที่ประเทศสวีเดน, ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020​ โดยทีมชาติเวลส์มีฉายาที่ตั้งขึ้น โดยสื่อมวลชนกีฬาในประเทศไทยว่า มังกรแดง มังงะ

ฟุตบอลทีมชาติเวลส์

มาดูถึงประวัติของ ฟุตบอลทีมชาติเวลส์ ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง ไปดูพร้อมๆกันเลย

ทีมชาติเวลส์ ลงแข่งขันฟุตบอลเป็นนัดแรก เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1876 โดยเป็นการแข่งขัน นัดกระชับมิตรกับทีมชาติ สก็อตแลนด์ ที่สนามแฮมิลตัน เครสเซนต์ ซึ่งเป็นสนามของทีมคริกเก็ตใน เมืองกลาสโกว์ ทำให้เวลส์เป็นทีมฟุตบอลทีมชาติ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอันดับที่ 3

รองจากทีมชาติอังกฤษ และทีมชาติสก็อตแลนด์ โดยการแข่งขันในนามทีมชาติ เป็นครั้งแรกของเวลส์จบลงด้วย การแพ้สก็อตแลนด์ถึง 4–0 ปีต่อมาในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1877 ทีมชาติเวลส์ และทีมชาติสก็อตแลนด์ กลับมาแข่งกันอีกครั้งที่ สนามเรสคอส กราวน์ เมืองเร็กซ์แฮม ประเทศเวลส์

โดยถือเป็นการเล่นในฐานะเจ้าบ้าน เป็นครั้งแรก และสก็อตแลนด์เอาชนะไปได้อีกครั้งด้วยผล 2–0 ทีมชาติเวลส์ มีโอกาสลงแข่งขันกับ ทีมชาติอังกฤษ เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 มกราคม ค.ศ.1879 ที่สนามดิ โอวัล ในกรุงลอนดอน และเป็นฝ่ายแพ้ไป 2–1

ปี ค.ศ. 1882 ทีมชาติเวลส์ได้ลงแข่งกับทีมชาติ เกาะไอร์แลนด์เป็นครั้งแรก ที่เมืองเร็กซ์แฮม และชนะไป 7–1 (ในสมัยนั้นเกาะไอร์แลนด์ ยังไม่ได้แยกเป็นไอร์แลนด์เหนือ และสาธารณรัฐไอร์แลนด์) สมาคมฟุตบอลเวลส์ เข้าร่วมเป็นสมาชิกของฟีฟ่าครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1906

แต่ด้วยความสัมพันธ์ ที่ไม่ค่อยดีนักระหว่างฟีฟ่า และสมาคมฟุตบอลของประเทศ ในเครือสหราชอาณาจักร ทำให้สมาคมฟุตบอลเวลส์ ถูกถอดถอนออกจากการเป็นสมาชิกของฟีฟ่าในปี ค.ศ. 1928 ทำให้ไม่มีสิทธิเข้าร่วม การแข่งขันฟุตบอลโลก 1930

ซึ่งเป็นการจัดฟุตบอลโลก สมัยแรกและในอีก 2 ครั้งต่อมา โดยการเดินทางออกไป แข่งขันภายนอกสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรก ของทีมชาติเวลส์ เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1933 เมื่อนักฟุตบอลทีมชาติเวลส์ เดินทางไปที่กรุงปารีส เพื่อลงแข่งขันกับทีมชาติฝรั่งเศส ในวันที่ 23 พฤษภาคม

ซึ่งผลจบลงด้วยการเสมอกัน 1–1 และ วอลเตอร์ ร็อบบินส์ กองหน้าสังกัดสโมสร เวสต์บรอมมิช อัลเบียน ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ของสมาคมฟุตบอลเวลส์ ว่าเป็นนักฟุตบอลทีมชาติคนแรก ที่ยิงประตูได้ในการแข่งขัน นอกสหราชอาณาจักร

หลังจบสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1946 สมาคมฟุตบอลเวลส์ ได้กลับเข้ามาเป็นสมาชิกของฟีฟ่าอีกครั้ง พร้อมๆกับสมาคมฟุตบอล ของประเทศในเครือสหราชอาณาจักรอื่นๆ และลงแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 1950 แต่ทีมชาติเวลส์ จบอันดับสุดท้ายของกลุ่ม

อย่างไรก็ตามใน ยุค 50 ถือเป็นยุคทองของ ทีมชาติเวลส์ เมื่อทีมชาติในยุคนั้นอุดมไปด้วย ดารานักเตะดังๆแทบจะทั้งทีม เช่น อิวอร์ ออลเชิร์ช, คลิฟฟ์ โจนส์, เทรเวอร์ ฟอร์ด และ จอห์น ชาร์ลส์ แทงบอลออนไลน์

ฟุตบอลทีมชาติเวลส์

ครั้งแรกและครั้งเดียวฟุตบอลทีมชาติเวลส์ ในฟุตบอลโลก 1958

ทีมชาติเวลส์ ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ครั้งแรกและครั้งเดียวในฟุตบอลโลก 1958 ที่ประเทศสวีเดน ภายใต้การคุมทีมของ จิมมี่ เมอร์ฟี่ โดยในรอบแบ่งกลุ่ม ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ 3 ร่วมกับ ทีมชาติสวีเดน ที่เป็นเจ้าภาพ ,ทีมชาติฮังการี และทีมชาติเม็กซิโก

โดย การแข่งฟุตบอลโลกนัดแรก ในประวัติศาสตร์ของทีมชาติเวลส์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 1958 ที่สนามเจิร์นวัลเล่น เมืองแซนด์ไวเค่น เป็นการแข่งขันในรอบแรก ระหว่างทีมชาติฮังการี และ ทีมชาติเวลส์ ผลจบลงด้วยการเสมอกันไป 1–1

ฮังการีได้ประตูขึ้นนำก่อนจาก โจเซฟ บอสซิก ส่วนเวลส์ตีเสมอได้จาก จอห์น ชาร์ลส์ กองหน้าสังกัดยูเวนตุส ทำให้จอห์น ชาร์ลส์ ถูกบันทึกว่าเป็นนักเตะทีมชาติคนแรก ของเวลส์ที่ยิงประตูได้ในฟุตบอลโลก นัดต่อมาเวลส์เสมอกับทีมชาติเม็กซิโก 1–1

โดยเวลส์ได้ประตูขึ้นนำก่อน จากลูกยิงของอิวอร์ ออลเชิร์ช ก่อนที่ ไคเม่ เบลมอนเต้ จะตีเสมอให้เม็กซิโก ผลจากการที่นัดสุดท้ายในรอบแรก ทีมชาติเวลส์ เสมอกับเจ้าภาพสวีเดน 0–0 ทำให้สวีเดนผ่านเข้ารอบ ในฐานะแชมป์กลุ่ม ส่วนเวลส์ มี 3 คะแนนเท่ากับฮังการี

ต้องตัดสินด้วยการเพลย์ออฟ เพื่อหาทีมที่จะเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป การแข่งขันเพลย์ออฟ ระหว่างเวลส์และฮังการี่ ทีมชาติเวลส์เสียประตูก่อน ในครึ่งแรก แต่มายิงคืนได้ 2 ประตูรวดจากอิวอร์ ออลเชิร์ช ที่ยิงตีเสมอ และได้ประตูชัยจากเทอร์รี่ เมดวิน ปีกจากสโมสรท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในช่วงท้ายเกมส์ ทำให้ผ่านเข้าไปสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป อาลิง โฮลัน

ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายพบกับ ทีมชาติบราซิล 

ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เวลส์ต้องพบกับทีมชาติบราซิล และจอห์น ชาร์ลส์ กองหน้าตัวสำคัญของทีม ก็ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในที่สุดเวลส์ก็แพ้บราซิลไป 1–0 โดยผู้ที่ยิงประตู ให้ทีมชาติบราซิล ได้ในแมตช์ดังกล่าว

เป็นนักเตะหนุ่ม ที่อายุเพียง 17 ปี ของสโมสรซานโต๊ส และประตูนี้เป็นประตูแรกของเขา ในนามทีมชาติบราซิล อีกทั้งยังส่งผลให้เขาเป็นเจ้าของสถิติ ผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ในฟุตบอลโลก จนถึงปัจจุบัน

หลังจบทัวนาเมนต์บราซิล คว้าตำแหน่งแชมป์โลก ไปครองได้สำเร็จ และนักฟุตบอลหนุ่มที่ยิงประตู ได้ในแมตช์นี้กลายเป็นกองหน้า ระดับตำนานของวงการฟุตบอลในเวลาต่อมา นักฟุตบอลหนุ่มคนนี้มีชื่อเล่นว่า “เปเล่”

ฟุตบอลทีมชาติเวลส์กับผลงาน ดีที่สุดในระดับชาติ

โดยผลงานดีที่สุดในระดับชาติที่ ทีมชาติเวลส์เคยทำได้คือการ ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในฟุตบอลโลก 1958 และผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ แห่งชาติยุโรป 2016 ส่วนในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป

เวลส์ตกรอบคัดเลือกโดย มีคะแนนตามหลัง ทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งอยู่อันดับ 2 เพียงแค่ 2 คะแนน อย่างไรก็ตาม เวลส์ สามารถผ่านเข้าไปแข่งขันในรอบสุดท้าย ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020​ ได้สำเร็จ

การจัดอันดับโลกของฟีฟ่า ที่ทีมชาติเวลส์เคยทำได้สูงสุดคืออันดับที่ 8 (ตุลาคม 2015) ภายใต้การคุมทีมของ คริส โคลแมน โดยในเดือนกันยายน 2015 นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ เวลส์ กลายเป็นทีมชาติที่มีอันดับโลกดีที่สุด ในบรรดาทีมชาติในสหราชอาณาจักร

ตาราง-12-05-64-v