ฟิลิปโป อินซากี มาทำความรู้จัก นักฟุตบอลชาวอิตาลี ในชุดชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 และสองยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก กับ เอซี มิลาน
ฟิลิปโป อินซากี ฟิลิปโป “ปิปโป” อินซากี (อิตาลี: Filippo “Pippo” Inzaghi) เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1973 เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวอิตาลี ในชุดชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 กับทีมชาติอิตาลี และสองยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก กับ เอซี มิลาน ยอดทีมในเซเรียอา
มีน้องชายชื่อ ซิโมเน่ อินซากี้ ที่เป็น นักฟุตบอล ในกัลโช่เซเรียอาเหมือนกัน ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมเบรสซา เขาเป็นผู้ทำประตูในการแข่งขันของสโมสรยุโรป เป็นอันดับ 2 สูงสุดตลอดกาล กับประตู 70 ประตู (เป็นรองราอุล กอนซาเลซ 71 ประตู)
เขาเป็นผู้เล่นสโมสร เอซี มิลาน ที่ทำประตูในนัดระหว่างประเทศมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ กับจำนวนประตู 43 ประตู เขายังถือสถิติ ผู้ทำแฮตทริกมากที่สุด ในเซเรียอา (10 แฮตทริก) และในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (3 แฮตทริก เทียบเท่า ไมเคิล โอเวน)
เขาเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุด ที่ทำประตูได้ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (อายุ 37 ปี 85 วัน) หลังจากทำประตูในนัดแข่งกับ สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 เว็บดูบอลสดฟรี
มาดูถึงประวัติความเป็นมาของ ฟิลิปโป อินซากี นักฟุตบอลชาวอิตาลี ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง มาดูกัน
Inzaghi เริ่มอาชีพนักฟุตบอลของเขาใน Piacenza ในปี 1991 แต่เล่นเพียงสองนัดของผู้ชาย ก่อนที่จะถูกยืมตัวไปยัง Serie C1 Lefe ที่นั่น เขาบอกใบ้ถึงศักยภาพมหาศาลของเขา โดยยิงได้ 13 ประตูจาก 21 เกม
ในปี 1993 กองหน้าย้ายไปร่วมทีมเวโรนา ในเซเรีย บี และทำประตูได้ 13 ประตูอีกครั้ง แต่อยู่ใน 36 เกมแล้ว หลังจากยืมตัวไปเขากลับมาที่ปิอาเซนซ่า และช่วยให้สโมสรบ้านเกิดของเขา คว้าแชมป์เซเรีย อา โดยยิงไป 15 ประตูจากการลงเล่น 37 นัด ที่เขาลงเล่น
Filippo Inzaghi เปิดตัวเซเรียอาของเขา แต่กับปาร์ม่าในปี 1995 อย่างไรก็ตามในการแข่งขัน 15 นัด เขายิงได้เพียง 2 ประตู โดยหนึ่งในนั้นคือเกมกับเจ้าบ้าน หลังจากนั้นปีโป้ถึงกับน้ำตาซึม เขาสามารถสมัครเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ ยุโรปได้สองครั้งในฤดูกาลนี้
หลังจากนั้นเขาก็ถูกซื้อโดย อตาลันต้า จากนั้น Parmalats ก็รายงานข้อผิดพลาดนี้เมื่อ Inzaghi กลายเป็น Capokanonier (ผู้ทำประตูสูงสุดของลีก) ด้วยการยิงที่แม่นยำ 24 ครั้ง และได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นดาวรุ่งแห่งปี
แม้กระทั่งนำทีมด้วยปลอกแขนกัปตัน ในนัดที่แล้ว Inzaghi ถูกแมวมองของ Juventus พบและย้ายไปที่ Old Woman ด้วยเงิน 23 พันล้านปอนด์ อิตาลี ในทีมจากตูริน ปิโป้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม ควบคู่กับอเลสซานโดร เดล ปิเอโร่
โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ซีเนอดีน ซีดาน ทั้งสามคนอยู่ด้วยกันเป็นเวลาสี่ปี ทำให้ Filippo Inzaghi ยาวนานที่สุดในทีม ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่เบียงโคเนรี เขาทำ 2 แฮตทริก ในแชมเปี้ยนส์ลีก กับแฮมเบอร์เกอร์ สปอร์ต เฟอร์เรน
และกับดินาโม เคียฟ ยูเวนตุส คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ในปี 1997-98 จากประตูชี้ขาดของ ซูเปอร์ ปิโป้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแฮตทริกของเขากับโบโลญญ่า อย่างไรก็ตาม ตูรินแพ้ให้กับเรอัล มาดริด 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก เดวิด เบคแคม
ในสโมสรเอซี มิลาน ของฟิลิปโป อินซากี และอาการบาดเจ็บ
เขาชอบที่จะย้ายไปมิลาน โดยมี ฟาติห์ เทริม เป็นโค้ชในเวลานั้น ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ + คริสเตียน เซโนนี (17 ล้านปอนด์ ตามรายงานของสกาย สปอร์ตส์) กำไรสุทธิของ ยูเวนตุส จากการขายคือ 31 ล้านยูโร อย่างไรก็ตาม Filippo Inzaghi ได้รับบาดเจ็บที่เข่าในช่วงเริ่มต้น ที่เขาดำรงตำแหน่งที่ Rossoneri
และพลาดช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล อย่างไรก็ตามเมื่อเขากลับมา เขาเริ่มเข้ากันได้ดีกับ Andriy Shevchenko โดยนำถ้วยรางวัลมากมายมาที่มิลาน ในปี 2003 Rossoneri ชนะการแข่งขัน Champions League โดยเอาชนะอดีตสโมสร
Inzaghi ในรอบชิงชนะเลิศ ในปีเดียวกับที่ Italian Cup ตีหน้าต่าง San Siro สคูเด็ตโต้ ก็ได้รับรางวัลในปีถัดมา และในแชมเปียนส์ลีก Pipo ยิงแฮตทริกอีกครั้งกับ Deportivo La Coruna ในรอบแบ่งกลุ่ม และจากนั้นก็ทำประตูชี้ขาดให้กับ Ajax ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
เป็นผลให้กองหน้า ทำประตูได้ 12 ประตู ในแคมเปญยุโรปของมิลาน ในปี 2004 เขาเซ็นสัญญากับสโมสรอีกครั้ง Inzaghi สามารถฟื้นตัวเต็มที่จากอาการบาดเจ็บที่เข่าที่รบกวนจิตใจ เขามานานกว่า 2 ปี ซึ่งช่วยให้เขาฟื้นสัญชาตญาณ นักล่าที่ประตู
เขาไม่เคยตีอย่างแรง ใครจะคิดว่าหมัดของเขาเบาเกินไป แต่ความแม่นยำที่ร้ายแรงของเขา ทำให้เขาเป็นกองหน้าที่เหลือเชื่อ เขายิงได้ 12 ประตูจาก 22 เกมให้กับมิลาน ในฤดูกาล 2005-2006 โดยเพิ่มอีก 4 ประตูในแชมเปี้ยนส์ลีก
2 ประตูให้กับโอลิมปิก ลียง และเช่นเดียวกันกับบาเยิร์น ในรอบน็อคเอาท์แรก นอกจากนี้เขายังทำประตูชี้ขาด ให้กับทีมบาวาเรียในปี 2007 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งช่วยให้มิลาน เข้าถึงการรีแมตช์กับลิเวอร์พูล ซึ่งคว้าถ้วยจากรอสโซเนรีในปี 2005 ในรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเอเธนส์
ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล 2007-08
ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล 2007-08 ฟิลิปโปทำคะแนนกับเซบีญ่า และมิลานในที่สุดก็ชนะ 3-1 และชนะยูโรเปียนซูเปอร์คัพ กองหน้ารายนี้ไม่สามารถหยุดยิงได้ อีก 2 ประตูในนัดชิงชนะเลิศของคลับ เวิลด์ คัพ และช่วยให้ทีมเอาชนะโบคา จูเนียร์ส 4-2
และล้างแค้นให้กับการพ่ายแพ้จุดโทษ ในปี 2003 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2008 Inzaghi ยิงประตูชัย 2-1 ให้กับ ปาแลร์โม ในขณะที่เขาเข้ามาหลังจากกระโดด และเฮดบัตต์ นับเป็นสัมผัสแรกอย่างแท้จริง เมื่อเขาเข้าไปในตัวสำรอง
นี่เป็นประตูแรกในลีกของเขาในฤดูกาลนี้ ตามมาด้วยอีก 10 ประตู ซึ่งเป็นประตูสุดท้ายที่เขาเจออูดิเนเซ่ เขายังเป็นประตูที่ 100 ของมิลานอีกด้วย แม้จะมีฟอร์มที่น่าทึ่งของเขา แต่โค้ชชาวอิตาลี Roberto Donadoni ก็ไม่ได้ท้าทายเขาในยูโร 2008 ในเดือนพฤศจิกายน 2008 Inzaghi ได้เซ็นสัญญาใหม่กับ Rossoneri คราวนี้จนถึงปี 2010
ฟิลิปโป อินซากีกับการเล่นใน ทีมชาติอิตาลี
นัดแรกของการเล่นตำแหน่งกองหน้า ให้กับประเทศของเขาเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 8 มิถุนายน 1997 เมื่อเขาทำประตูให้กับเป้าหมาย ของเดลปิเอโรในการเสมอ 3-3 กับบราซิล ตั้งแต่นั้นมา เขาได้ลงเล่น 57 เกม ยิงได้ 25 ประตู
ทำให้เขาอยู่ใน อันดับที่หกในรายชื่อผู้ทำประตูสูงสุดของทีมชาติ (ที่เขาร่วมกับ Adolfo Balonsieri และ Alessandro Altobeli) Inzaghi ขึ้นชื่อในเรื่องการวางตำแหน่ง ที่ยอดเยี่ยมและเวลาออกเดินทางที่แม่นยำ ซึ่งมักจะหลีกเลี่ยงการซุ่มโจมตี
ผู้พิทักษ์หลายคนพยายามซุ่มโจมตี เขาอย่างดุเดือดแต่มีเพียงไม่กี่คน ที่สามารถอวดความสำเร็จได้ ส่วนใหญ่มักจะยกมือขึ้น และมองไปที่ผู้ตัดสินด้านข้างในขณะที่ Pipo ทำประตูต่อไปของเขา แม้แต่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเคยกล่าวไว้ว่า “เด็กคนนี้ต้องเกิดมาเพื่อหลีกเลี่ยงการซุ่มโจมตี”
