ตำแหน่งกองกลาง หรือ มิดฟีลด์ Midfielder ตำแหน่งกึ่งกลางในสนาม ระหว่างกองหน้ากับกองหลัง

ตำแหน่งกองกลาง วันนี้จะพามาทำความเข้าใจกับ อีกหนึ่งตำแหน่งในกีฬาฟุตบอล

ตำแหน่งกองกลาง กองกลาง หรือ มิดฟีลด์ (อังกฤษ: midfielder) ในการเล่นฟุตบอล คือตำแหน่งกึ่งกลางในสนาม ระหว่างกองหน้ากับกองหลัง โดยมีหน้าที่ครองบอลและส่งบอลสู่กองหน้า โดยกองกลางบางตำแหน่งเล่นในแนวรับ คอยหยุดการบุกจากฝ่ายตรงข้าม

หรือที่เรียกว่า กองกลางตัวรับ หรือในบางตำแหน่งจะคอยสกัดกั้น การเคลื่อนที่ของฝ่ายตรงข้าม และคอยจ่ายบอลไปด้านหน้า หรือที่เรียกว่า กองกลางแนวลึก, กองกลางตัวทำเกม, กองกลางตัวกลาง และ กองกลางตัวคุมเกม

โดยจำนวนของกองกลางในแต่ละทีม จะขึ้นอยู่กับแผนการเล่น ในเกมนั้น ซึ่งจะเรียกรวมๆทั้งหมดว่า กองกลาง หรือ มิดฟีลด์ ผู้จัดการทีมส่วนใหญ่ จะใช้กองกลาง 1 คน เพื่อป้องกันการบุกจากฝ่ายตรงข้าม

และกองกลางที่เหลือจะคอยช่วย ในเกมรุกเพื่อทุกประตู หรืออาจจะเป็นกองกลางที่คอยคุมเกมกลางสนาม ซึ่งกองกลางเป็นตำแหน่งที่จะคอยวิ่งมากที่สุด ในสนาม เนื่องจากต้องคอยครองบอล และวิ่งไล่บอลจากฝ่ายตรงข้าม อนิเมะ

ตำแหน่งกองกลาง

มาดูและทำความรู้จัก ตำแหน่งกองกลาง ตัวคุมเกม ว่ามีความสำคัญอย่างไร

กองกลางตัวคุมเกม (อังกฤษ: holding midfielder) หรือ กองกลางแนวลึก (อังกฤษ: Deep-lying midfielder) จะคอยยืนตำแหน่งใกล้กับกองหลัง เมื่อกองกลางคนอื่น จะคอยเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อทำเกมรุก กองกลางตัวคุมเกมจะคอยรับผิดชอบ เมื่อทีมได้บอล

ผู้เล่นในตำแหน่งนี้จะคอยส่งบอลสั้น ไปยังแนวรุกของทีม แต่อาจจะส่งบอลยาวหรือส่งบอลตรง ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของทีม มาร์เซโล บิเอลซา ถือเป็นผู้เล่นที่เริ่มต้นเล่นในตำแหน่ง กองกลางตัวคุมเกมที่มีตำแหน่งป้องกัน ตำแหน่งนี้จะปรากฏอยู่ในแผนการเล่น 4-2-3-1 และ 4-4-2 ไดมอนด์ 

ในระยะแรกกองกลางตัวรับ (หรือตัวทำลายเกม) และ กองกลางตัวทำเกม จะอยู่ในทีมที่ใช้กองกลางตัวคุมเกม 2 คน โดยตัวทำลายเกมจะคอยสกัดกั้น, ทำให้ทีมกลับมาครองบอล และจ่ายบอลไปยังตัวทำเกม ส่วนกองกลางตัวสร้างสรรค์เกม จะคอยครองบอลและพาบอลเคลื่อนที่ไปด้านหน้า

หรืออาจจะส่งบอลยางไปยังด้านข้าง ซึ่งกองกลางตัวลึกในอดีตเรียกว่า “รีจิสตา” (อังกฤษ: Regista) ตัวอย่างกองกลางตัวทำลายเกม ที่มีชื่อเสียงในอดีต เช่น น็อบบี สไตส์ และในยุคหลัง เช่น โกลด มาเกเลเล ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้อาจจะสามารถ เล่นได้ในหลายตำแหน่ง

โดยกองกลางตัวสร้างสรรค์เกม ที่มีชื่อเสียงในอดีต เช่น ซันเดย์ โลิเซ และในยุคหลัง เช่น ไมเคิล แคร์ลิก ซึ่งปัจจุบันนั้นมีรูปแบบของกองกลางตัวคุมเกม ที่ถูกพัฒนาใหม่เป็น กองกลางบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ โดยจะไม่เป็นทั้งกองกลางตัวทำลายเกม หรือกองกลางตัวสร้างสรรค์เกม

ซึ่งจะคอยแย่งบอลจากฝ่ายตรงข้าม และวิ่งจากแนวลึกเพื่อส่งบอลให้กับทีม หรืออาจจะวิ่งไปยังพื้นที่เขตโทษของฝ่ายตรงข้าม ตัวอย่างกองกลางบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ในปัจจุบัน เช่น เฟร์นังจิญญู เป็นกองกลางตัวทำลายเกม ที่มีการครองบอลที่ดี แทงบอลออนไลน์

กองกลางแนวรุกตำแหน่งกองกลาง อยู่ระหว่างกองกลางตัวกลางกับกองหน้า

กองกลางตัวรุก (อังกฤษ: Attacking midfielders) เป็นกองกลางที่ยืนตำแหน่งด้านหน้า ของกองกลางปกติ ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างกองกลางตัวกลาง กับกองหน้า โดยจะเล่นในเกมรุกเป็นหลัก ในบางครั้งกองกลางตัวรุก อาจจะถูกเรียกว่า “เทรควาร์ทิสตา” (อังกฤษ: Trequartista)

หรือ “ฟันตาซิสตี” (อิตาลี: Fantasisti) ซึ่งหมายถึงกองกลางตัวสร้างสรรค์เกม ที่อยู่ระหว่างกองหน้ากับกองกลาง มีความคล่องตัวสูง, มีการเล่นที่สร้างสรรค์และมีความสามารถพิเศษสูง, มีความคล่องแคล่ว, มีความคิดในการทำเกม

สามารถยิงประตูจากระยะไกลได้ และมีการส่งบอลที่ยอดเยี่ม อย่างไรก็ดีกองกลางตัวรุกและเทรควาร์ทิสตา จะเล่นด้วยตำแหน่งนี้ ซึ่งกองกลางตัวรุกบางคนจะยืนตำแหน่ง เป็นกองหน้าตัวต่ำ ที่จะคอยส่งบอลไปยังกองหน้า หรือส่งบอลเพื่อทำประตูตามตำแหน่งในสนาม

กองกลางตัวรุกอาจจะแบ่งเป็น กองกลางตัวรุกด้านซ้าย, ด้านขวา และตัวกลาง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการช่วยกองหน้าทำประตู โดยกองกลางตัวรุกตัวกลาง อาจจะเรียกว่า “ตัวสร้างสรรค์เกม” (อังกฤษ: Playmaker)

หรือ “ผู้เล่นหมายเลข 10” (ตามเสื้อหมายเลข 10 ที่อยู่ในตำแหน่งนี้) กองกลางตัวรุกที่ดีจะต้องมีทักษะการส่งบอลที่ดี, มีความคิดในการสร้างสรรค์เกม, สามารถยิงประตูจากระยะไกลได้ และมีทักษะการเลี้ยงบอลที่ดี แบ็คซ้ายยอดเยี่ยม

กองกลางตัวรุกแบบฟอลส์ และกองกลางตัวรับ

กองกลางตัวรุกแบบฟอลส์ (อังกฤษ: false attacking midfielder) ใช้ในฟุตบอลอิตาลี เป็นตำแหน่งของผู้เล่นในแผนการเล่นแบบ 4–3–1–2 ซึ่งจะยืนลึกลงไปในตำแหน่งกองกลาง และพยายามสร้างพื้นที่ให้กับเพื่อนร่วมทีม ในการวิ่งทำเกมรุก

โดยกองกลางตัวรุกแบบฟอลส์ อาจจะยืนอยู่ในตำแหน่งเดียวกับ กองกลางตัวกลางและเล่นเหมือน เป็นกองกลางตัวลึก ซึ่งจะต้องใช้ทักษะความสร้างสรรค์, ทักษะส่วนตัวในการเคลื่อนที่, การจ่ายบอลที่ดี และการยิงประตูระยะไกล โดยตำแหน่งนี้จะต้องวิ่งค่อนข้างเยอะ เนื่องจากต้องอ่านเกมและช่วยทีมในเกมรับ

กองกลางตัวรับ (อังกฤษ: defensive midfielder) เป็นกองกลางที่มีหน้าที่ในการป้องกัน การยิงประตูจากฝ่ายตรงข้าม โดยจะคอยคุมตำแหน่งอยู่ด้านหน้ากองหลัง หรือคอยประกบแนวรุกของฝ่ายตรงข้าม กองกลางตัวรับอาจจะย้ายไปยืน ในตำแหน่งของฟุลแบ็ก

หรือกองหลังตัวกลาง หากผู้เล่นอื่นกำลังเติมเกมรุกอยู่ เซร์ฆิโอ บุสเกตส์ ได้อธิบายทัศนคติของเขาว่า “หัวหน้าผู้ฝึกสอนรู้ว่าผมเป็นผู้เล่น ที่จะคอยช่วยเหลือและต้องวิ่งไปด้านข้าง เพื่อคอยแทนตำแหน่งของใครบางคน”

ผู้เล่นกองกลางตัวรับที่ดี จะต้องคอยระวังตำแหน่งตนเอง, คาดเดาการเล่นของคู่แข่ง, คุมตำแหน่ง, แย่งบอล, ขัดขวาง, ส่งบอล และมีความอึดและความแข็งแกร่งที่ดีเพื่อการแย่งบอล ฟุตบอลในยุคอดีตมีตำแหน่ง เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ (อังกฤษ: centre-half) ซึ่งจะค่อยๆถอยจากการยืนตำแหน่ง ในกองกลางเพื่อป้องกันการบุก จากกองหน้าฝ่ายตรงข้าม โดยมีชื่อเรียกมาจาก กองหลังตัวกลาง ที่ในเรียกว่า “เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

ตำแหน่งกองกลางตัวสร้างสรรค์เกม 

ผู้เล่นในตำแหน่งนี้ จะเป็นผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ โดยกองกลางตัวรุกเป็นตำแหน่งสำคัญ ที่จะต้องมีผู้เล่นที่มีทักษะสูงทั้งการส่งบอล และการเลี้ยงบอล เช่นเดียวกับการอ่านเกมเพื่อที่ จะสร้างสรรค์เกมไปยังแนวรับของฝ่ายตรงข้าม

หน้าที่หลักของกองกลางตัวสร้างสรรค์เกม คือการยิงประตูและสร้างโอกาสการทำประตู โดยใช้ทักษะต่างๆ อาจจะเปิดบอล, ส่งบอล หรือการโหม่งให้กับเพื่อนร่วมทีม โดยอาจจะทำประตูด้วยการเลี้ยงบอล หลบคู่แข่งหรือการชิ่งบอลกับเพื่อนร่วมทีม

ซึ่งกองกลางตัวรุกอาจจะวิ่ง ไปยังพื้นที่เขตโทษของฝ่ายตรงข้าม เพื่อทำประตูจากการส่งบอลของเพื่อนร่วมทีม ตำแหน่งกองกลางตัวรุก เช่น กองกลางตัวสร้างสรรค์เกม ถูกใช้อย่างแพร่หลายในฟุตบอล ยุคปัจจุบัน

ซึ่งในตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่น ที่มีชื่อเสียง โดยส่วนมากจะสวมเสื้อหมายเลข 10 ทีมอาจจะใช้แผนการเล่นที่ปล่อยให้ กองกลางตัวรุกวิ่งช่วยเหลือเพื่อนหรือสร้างสรรค์เกม โดยหนึ่งในแผนการเล่นที่ใช้กองกลางตัวรุก ที่เป็นที่นิยมคือ 4–4–2 ไดมอนด์ (หรือ 4–1–2–1–2)

ซึ่งจะมีตำแหน่งผู้เล่นกองกลางตัวรุก และกองกลางตัวรับแทนการใช้ตำแหน่งกองกลางตัวกลางในอดีต อาจจะเรียกว่า “เทรควาร์ทิสตา” (อังกฤษ: Trequartista) หรือ “ฟันตาซิสตี” (อิตาลี: Fantasisti) ส่วนในประเทศบราซิล เรียกว่า “เมีย-อามาดอร์” (โปรตุเกส: Meia-armador) และในประเทศอาร์เจนตินา และ ประเทศอุรุกวัย เรียกว่า “เอนกันเช” (สเปน: Enganche)

ตาราง-12-05-64-v